2566-1 นางสาวพัชราภรณ์ เรืองเพ็ง-การค้นคว้าอิสระ

79 หรือด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อใด ๆ ที่มีรูปแบบในลักษณะของการสื่อสาร สามารถจัดให้หรือทำได้ ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว” ทั้งนี้ เหตุผลในการสนับสนุนการกำหนดลักษณะ วิธีการขอรับบริจาคหรือการเรี่ยไรโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือรูปแบบใด ๆ ให้ถูกบังคับอยู่ภายใต้ กฎหมายและการควบคุมจากรัฐดังกล่าวเป็นไปตามมาตรการทางกฎหมายของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีการขอรับบริจาคทั้งในรูปแบบผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มบริจาคออนไลน์อันเป็นที่ นิยมในปัจจุบันเช่นเดียวกับประเทศไทย ประการที่ 3 การควบคุมกำกับดูแลของภาครัฐ จากการวิเคราะห์ปัญหาและมาตรการ ทางกฎหมายที่ใช้ควบคุมในปัจจุบัน เห็นควรแก้ไข ดังนี้ 1. กรณีการขอรับบริจาคเงินของเอกชนนั้น บทบัญญัติของกฎหมายเปิดโอกาสให้ บุคคลธรรมดาสามารถกระทำการขอรับบริจาคเพื่อนำเงินไปใช้กับวัตถุประสงค์ในทางกิจกรรมอย่างใด อย่างหนึ่งได้อย่างอิสระ ประกอบกับการขอรับบริจาคที่กระทำโดยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ยิ่งทำให้ยาก ต่อการควบคุมกำกับดูแล ดังนั้น เพื่อให้การควบคุมกำกับดูแลของภาครัฐเป็นไปอย่างเรียบร้อย และ ง่ายในการตรวจสอบ ผู้วิจัยเห็นว่า ควรแก้ไขเพิ่มตัวบทกฎหมายโดยกำหนดห้ามไม่ให้บุคคลธรรมดา เป็นผู้รวบรวมเงินบริจาคหรือดำเนินกิจกรรมหาทุนใด ๆ ด้วยตัวเองโดยตรง เพื่อให้การกำกับดูแลของ ภาครัฐ สามารถควบคุมการขอรับบริจาคได้ง่ายยิ่งขึ้น และลดการกระทำความผิดในลักษณะของการ ทุจริตหลอกลวงประชาชนเช่นเดียวกับตามมาตรการทางกฎหมายของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และ สาธารณรัฐสิงคโปร์ จึงควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติ มาตรา 5/1 โดยกำหนดดังนี้ “ห้ามมิให้บุคคลใดจะทำการขอรับบริจาค หรือรวบรวมเงินบริจาคหรือดำเนิน กิจกรรมหาทุนใด ๆ เพื่อการกุศลหรือช่วยเหลือสังคมด้านต่าง ๆ เว้นแต่จะดำเนินการผ่านการเป็น อาสาสมัคร สมาชิกของสมาคม องค์กร มูลนิธิ นิติบุคคลหรือร่วมกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงาน อื่น ๆ ที่รับผิดชอบต่อสังคมที่ได้รับอนุญาตจัดให้มีการเรี่ยไรหรือทำการเรี่ยไรแล้วจากพนักงาน เจ้าหน้าที่แล้ว ความในวรรคก่อนมิให้ใช้บังคับแก่การรวบรวมเงินบริจาคในครอบครัว ระหว่างเครือ ญาติ หรือพวกพ้องของตน ที่มิใช่เป็นกระทำในลักษณะวงกว้างหรือเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะ” ฉะนั้นแล้ว เมื่อบุคคลธรรมดาไม่อาจจะเป็นผู้รวบรวมเงินบริจาคหรือดำเนิน กิจกรรมหาทุนเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ได้แล้วนั้น กระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นเจ้าภาพในควบคุมกำกับ ดูแลการเรี่ยไรให้เป็นไปตามกฎหมาย ควรมีการกำหนดเชิงนโยบายและร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยดูแลการขอรับบริจาคผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยทำงานร่วมกันหลายๆ หน่วยงาน เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หน่วยงานตำรวจ องค์การปกครองส่วน ท้องถิ่น หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับงานสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3