2566-1 นางสาวพัชราภรณ์ เรืองเพ็ง-การค้นคว้าอิสระ

82 บัญชี ตลอดจนปิดบัญชีหรือเสร็จสิ้นการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการเปิดรับขอรับบริจาคเงิน และถ้าหากกระทำผิดเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่จะต้องมีมาตรการบังคับทางปกครองอีกบทหนึ่งด้วย ซึ่งเป็นการปรับในเชิงลงโทษทางปกครอง เพื่อบังคับพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด โดยควรแก้ไข เพิ่มโทษทางอาญา และทางปกครอง ได้แก่ มาตรา 17, มาตรา 18, มาตรา 19 และมาตรา 20 ดังนี้ มาตรา 17 กำหนดให้ “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 5 มาตรา 6 วรรคแรก มาตรา 8 วรรคแรก มีความผิดระวางโทษปรับไม่เกิน 200 บาทหรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ” ควรแก้ไขโทษเป็น “มีความผิดระวางโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท แต่ไม่เกิน 200,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่หรือ จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง” มาตรา 18 กำหนดให้ “ผู้ใดทำผิดเงื่อนไขในการอนุญาต ซึ่งคณะกรรมการควบคุม การเรี่ยไรกำหนดตามมาตรา 9 หรือพนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดตามมาตรา 10 หรือฝ่าฝืนมาตรา 12 มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 100 บาท” ควรแก้ไขโทษเป็น “มีความผิดระวางโทษปรับตั้งแต่ 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท และปรับอีกวันละ 1,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่หรือ จนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง” มาตรา 19 กำหนดให้ “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 13 มาตรา 14 มาตรา 15 มีความผิดต้อง ระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือ ทั้งปรับทั้งจำ” ควรแก้ไขโทษเป็น “มีความผิดระวางโทษปรับตั้งแต่ 50,000 บาท แต่ไม่เกิน 300,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละ 5,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่หรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ ถูกต้อง” มาตรา 20 กำหนดให้ “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 16 มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ” ควรแก้ไขโทษเป็น “มีความผิดระวางโทษปรับ ไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ” ทั้งนี้ พิจารณาตามความเหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน เช่นเดียวกับกฎหมายต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสิงคโปร์ เพื่อเป็นมาตรการป้องกัน มิให้เกิดขอรับบริจาคที่มีในลักษณะหลอกลวงประชาชนหรือการไม่ได้รับอนุญาต พยายามหลีกเลี่ยง กฎหมาย โดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขวัตถุประสงค์ ฉะนั้น การแก้ไขปัญหาที่ดีจะต้องเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ โดยสร้างมาตรการใน การควบคุมกำกับดูแลการขอรับบริจาคให้มีความครอบคลุมและสามารถบังคับใช้ได้โดยไม่หย่อน ประสิทธิภาพ การให้อำนาจแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาตในการกำหนดวิธีการควบคุมดูแลและ เงื่อนไขในการดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้นและจนจบการขอรับบริจาค อีกทั้งการกำหนดโทษที่เหมาะสม กับบริบททางด้านสังคมและเศรษฐกิจของปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญเพื่อคุ้มครองปกป้องผู้บริจาค

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3