2566-1 นางสาวพิชญ์สินี ใหม่คง-วิทยานิพนธ์

73 1. ปัญหาและอุปสรรคในการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เนื่องจากอัตรากำลัง ของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และอัตรากำลังของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัด มีข้าราชการจำนวนจำกัด ข้าราชการในตำแหน่งนักกฎหมายและนักจิตวิทยา มีไม่เพียงพอการขอรับการสนับสนุนด้านบุคลากรจากสำนักงาน ก.พ. เพิ่มเติมก็เป็นไปได้ยากและ ล่าช้า ไม่ทันเวลาบังคับใช้กฎหมาย และมีข้อจำกัดด้านงบประมาณในการจัดการฝึกอบรมเสริมความ เข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวให้แก่พนักง าน อัยการจากสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วย เหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด พนักงานบสวน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการเพื่อ ป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัวจังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบัน ครอบครัว บ้านพักเด็กและครอบครัว ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ทีมสหวิชาชีพ พนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้แทน องค์กรภาครัฐและประชาชน สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้าง กฎหมายใหม่กำหนดให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเป็นศูนย์ส่งเสริมและ คุ้มครองครอบครัว ในเขตพื้นที่จังหวัด ในขณะที่ภารกิจหลักในปัจจุบันเป็นการมุ่งเน้นการขับเคลื่อน งานในเชิงนโยบายและวิชาการ ดังนั้น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จึงได้เสนอ ขอจัดตั้งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อำเภอ เพื่อเป็นหน่วยปฏิบัติการตาม กฎหมายในระดับพื้นที่ รวมทั้งการรองรับกลไกตามกฎหมายใหม่ดังกล่าวด้วย แต่ สำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ(ก.พ.ร.) ไม่เห็นด้วยที่จะให้จัดตั้งหน่วยงานดังกล่าว ส่วนปัญหา และอุปสรรคในการเตรียมความพร้อมด้านความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมกิจการ สตรีและสถาบันครอบครัว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาลเยาวชนและครอบครัว และกระทรวงสาธารณสุข ปรากฏว่ามี ขั้นตอนกระบวนงานที่แตกต่างจากเดิมโดยมีรายละเอียดในการปฏิบัติที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจ อย่างถ่องแท้ อีกทั้งต้องเตรียมร่างกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องและจำเป็นอีกหลายฉบับเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ในการตราพระราชบัญญัติดังกล่าว 2. หากมีการใช้บังคับพระราชบัญญัติดังกล่าวตามกำหนดเวลาเดิมในขณะที่ยังไม่มี ความพร้อมผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวและผู้เกี่ยวข้องไม่อาจเข้าถึงการคุ้มครอง สวัสดิภาพตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายใหม่ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิผล รวมทั้งผู้กระทำ ความรุนแรงในครอบครัวไม่สามารถเข้าถึงกิจกรรมการบำบัดฟื้นฟูเพื่อมิให้กระทำความผิดซ้ำได้อย่าง มีประสิทธิภาพ เนื่องมาจากความไม่พร้อมของบุคลากรและกลไกการปฏิบัติงานตามกฎหมายใหม่ กำหนด อาจเกิดผลร้ายต่อสังคมเป็นอย่างยิ่ง เกิดความวุ่นวายสับสน ประชาชนผู้ถูกกระทำด้วยความ รุนแรงในครอบครัวไม่สามารถเข้าถึงสิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัย จากรัฐ ส่วนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติจะได้รับความเดือดร้อนเพราะอาจถูกฟ้องเป็นคดี เนื่องจากไม่สามารถ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3