2566-2 ฐิตา ตุกชูแสง-การค้นคว้าอิสระ

23 ความสุจริตของผู้ขายในหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญานั้น เพราะจะนำมาซึ่งความเป็นธรรมต่อผู้ซื้อเป็น อย่างมาก (พินิต เหล่าจรุงเภสัชกร, 2549) 4) หลักความเท่าเทียม (Equality) หลักนี้ยึดหลักว่าคู่สัญญาย่อมมีความเท่าเทียมกัน เพราะทุกคนตั้งอยู่บนความมีอิสระ และเสรีภาพของบุคคลในการทำสัญญาก็เท่าเทียมกัน ทุกคนจึงมีอำนาจต่อรองเท่าเทียมกันตาม กฎหมาย 5) หลักความไว้เนื้อเชื่อใจ หลักความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นหลักที่เกิดขึ้นเพื่อมุ่งคุ้มครองบุคคลผู้รับการแสดงเจตนาซึ่ง โดยสุจริตไม่รู้ว่าการแสดงเจตนานั้นไม่ตรงกับเจตนาภายใน เป็นหลักการที่ปฏิเสธทฤษฎีเจตนาภายใน ซึ่งมุ่งคุ้มครองเฉพาะเจตนาภายในของผู้แสดงเจตนาภายในของผู้แสดงเจตนาเป็นหลักด้วย ถือว่าเป็น เจตนาที่แท้จริงเกิดขึ้นเป็นลำดับแรกในกระบวนการการของการก่อเจตนา ดังนั้น เมื่อเจตนาที่ แสดงออกไม่ตรงกับเจตนาภายในเจตนาที่แสดงออกก็ตกเป็นโมฆะไป เจตนาที่สมบูรณ์คือเจตนาภายใน ในขณะที่หลักการคุ้มครองความไว้เนื้อเชื่อใจนั้นปฏิเสธที่จะให้น้ำหนักกับเจตนาภายในของผู้แสดงเจตนา เพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าเจตนาภายในเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถที่จะล่วงรู้ได้ ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า หลัก ความไว้เนื้อเชื่อใจ คือ หากการแสดงเจตนาไม่ตรงกับเจตนาภายในจะต้องพิจารณาว่าผู้รับการแสดงเจตน นาสุจริตหรือไม่ คือ รู้หรือไม่ว่าผู้แสดงเจตนาแสดงเจตนาไม่ตรงกับเจตนาภายในถ้าไม่รู้หรือไม่อาจที่ จะรู้ได้ก็ต้องคุ้มครองผู้รับการแสดงเจตนาที่ได้ให้ความไว้วางใจในเจตนาที่แสดงออกของผู้แสดงเจตนา ดังนั้น ต้องถือเจตนาที่แสดงออก แต่ถ้าผู้รับการแสดงเจตนารู้หรือควรจะได้รู้ว่า ผู้แสดงเจตนาแสดง เจตนาไม่ตรงกับเจตนาภายใน กรณีนี้ความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ รับการแสดงเจตนาไม่ได้รับความ กระทบกระเทือน ดังนั้น เจตนาที่สมบูรณ์คือเจตนาภายในสำหรับการปรับใช้เจตนาภายในก็คือการปรับ ใช้หลักเสรีภาพในการทำสัญญานั่นเอง (จำปี โสตถิพันธ์, 2548) 2.4 แนวคิดและนโนบายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค 2.4.1 ประวัติและความเป็นมาของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ในช่วงก่อนยุคสังคมอุตสาหกรรม สินค้าหรือสิ่งของต่างๆนั้นผลิตขึ้นจากวิธีการทาง ธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องนุ่มห่ม รวมไปถึงจำพวกยา สมุนไพร หรือสิ่งของที่จำเป็นสำหรับ มนุษย์ ซึ่งมนุษย์ทุกคนมีการเรียนรู้ในการทำอาหารหรือเครื่องนุ่มห่มได้เอง รวมไปถึงการถนอมอาหารต่างๆ เช่น น้ำปลา ปลาแห้ง ไส้กรอกเป็นต้น ถึงแม้ต่อมาสังคมจะได้มีการพัฒนาการแบ่งแยกงานกัน ผู้ที่มีฝีมือ ก็จะกลายไปเป็นผู้ผลิตเพื่อขายสินค้าให้แก่ผู้อื่น ในช่วงเวลานั้นความรู้ของผู้ประกอบการและผู้บริโภคมี

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3