2566-2 ฐิตา ตุกชูแสง-การค้นคว้าอิสระ

24 ความรู้ที่เท่าเทียมกัน เนื่องจากว่าผู้บริโภคทุกคนในช่วงระยะเวลานั้นสามารถที่จะรับรู้ได้ว่าสิ่งใดทำขึ้น โดยกรรมวิธีใด แต่ต่อมาเมื่อสภาพสังคมและวิทยาการที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้หลักทางเศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ และกฎหมาย เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยส่งผลให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครอง ผู้บริโภคขึ้นมา (ชัยวัฒน์ วงศ์วัฒนศานต์, 2543) ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 15 เป็นยุคที่กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคได้กลับฟื้นตัวขึ้นมาอีก ครั้งหนึ่ง เนื่องมาจากว่าสภาพทางเศรษฐกิจและวิทยาการของประเทศได้พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่ง ระบบ เศรษฐกิจแบบเสรีดั้งเดิมเริ่มปรากฏข้อบกพร่อง การปล่อยให้แข่งขันกันโดยไม่มีการควบคุมนั้นก่อให้เกิด การแข่งขันเกินควรกิจการเล็กๆ ถูกบีบบังคับให้แก้และเลิกกิจการไป จนมีแนวโน้มให้เกิดกิจการ ผูกขาดและอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ผู้ผลิตหรือผู้ขายได้ตั้งราคาเอาเปรียบผู้บริโภค จึงทำให้เกิดแนวคิด ทางด้านสวัสดิการสังคม หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงได้มีการเริ่มออกกฎหมายมาควบคุมให้การ แข่งขันให้เกิดความเท่าเทียมและมีความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายมากที่สุด ตามแนวคิดระบบเศรษฐกิจเสรีแบบ ใหม่ผลของการแข่งขันทำให้ผู้ประกอบธุรกิจมีความรู้ในทางวิทยาการเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ประกอบกับ สังคมเริ่มพัฒนาเป็นสังคมอุตสาหกรรมในปัจจุบันจะพบว่าสินค้าต่างๆ มีความสลับซับซ้อนตามวิทยาการ ใหม่ หลายสิ่งหลายอย่างเป็นความลับทางการค้า (ไพโรจน์ อาจรักษา, 2543) แม้แต่ผู้ประกอบธุรกิจราย ใหญ่ก็มีความรู้ไม่เท่ากัน ส่วนผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยประเภทขายส่งและขายปลีกก็จะมีความรู้ลดหลั่น กันลงมา แต่เมื่อพิจารณาถึงผู้บริโภคจะพบได้ว่า ผู้บริโภคไม่มีความรู้ในรายละเอียดของสินค้าสมัยใหม่ ไม่ ว่าจะ เป็นนาฬิกา วิทยุ โทรทัศน์ เตาไมโครเวฟ ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ การดัดแปลงทาง พันธุกรรม ฯลฯ สินค้าอุตสาหกรรมหลายอย่าง และปรากฎต่อมาว่าเกิดผลข้างเคียงเป็นอันตรายต่อ ผู้บริโภค ความปลอดภัยในสินค้าอุตสาหกรรมจึงเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังมากขึ้นในสังคมอุตสาหกรรม (สมชาย อติกรจุฑาศิริ, 2542) ต่อมาในช่วงปี ค.ศ. 1760 มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทำให้มีเครื่องจักรไอน้ำมาใช้ ประกอบการทำงานทำให้การผลิตต่างๆ สามารถทำได้มากขึ้นหลายเท่าตัว ในปลายศตวรรษที่ 18 แนวคิดทางปรัชญาการปกครองแบบปัจเจกชนนิยมเริ่มปรากฏชัดและเน้นความเป็นอิสระของบุคคล และให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิมีเสียงในการปกครอง ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจมีการแข่งขันกันมาก ยิ่งขึ้นเพื่อความมั่งคั่งของธุรกิจตัวเอง ส่งผลให้การตลาดได้ขยายตัวโตมากกว่าเดิม ความสำเร็จนี้เป็น ผลมาจากการการแข่งขันทางการค้าทำให้ระบบเศรษฐกิจเสรีได้รับความนิยม โดยได้ผลักดันให้เกิด การเปลี่ยนแปลงของสภาพทางเศรษฐกิจและการปกครองที่ดีกว่าเดิมอย่างเด่นชัด สิ่งเหล่านี้ได้ส่งผล ต่อมายังหลักกฎหมาย โดยหลักกฎหมายในสังคมที่พัฒนาแล้วยอมรับให้บุคคลมีเสรีภาพในการทำ สัญญา อันเป็นไปตามหลักปัจเจกชนนิยม เมื่อบุคคลมีเสรีภาพในการทำสัญญา หากทำสัญญากัน เช่นใดก็จะต้องมีการบังคับให้เป็นไปตามสัญญาที่ทำกันเสมอ ทุกคนมีหน้าที่จะต้องปกป้องประโยชน์ของ ตนเอง ในกฎหมายซื้อขายจึงมีหลักว่า “ผู้ซื้อต้องระวัง” ตามหลักกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กล่าวคือ ถ้าผู้ซื้อ