2566-2 ฐิตา ตุกชูแสง-การค้นคว้าอิสระ

27 รับผิดในบางกรณีถ้าผู้ซื้อได้ทราบถึงความชำรุดบกพร่องหรือควรจะทราบหากได้ใช้ความระมัดระวัง ตามสมควร ทั้งนี้เพราะทฤษฎีทางกฎหมายนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานที่ว่ามนุษย์ทุกคนมีความสามารถใน การตัดสินใจในการเลือกบริโภคสินค้าหรือบริการเท่ากัน ซึ่งหลักดังกล่าวได้รับอิทธิพลของแนวคิดใน ระบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ซึ่งต้องอยู่บนพื้นฐานของความอิสระ และเสรีภาพของบุคคลใน การดำรงชีวิตที่เท่าเทียมกัน ซึ่งต่อมาหลักการดังกล่าวได้พัฒนามาเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเสรีในเวลา ต่อมา ซึ่งถ้าพิจารณาจากสภาพสังคมที่มีความซับซ้อนขึ้น ก็คงพิจารณาได้ว่าผู้ที่ไม่ใช่คู่สัญญาจะเป็น ผู้บริโภคที่สูงขึ้นเรื่อยๆ นี้อาจจะเป็นเพียงสาเหตุหนึ่งในหลายๆ สาเหตุที่ทำให้กฎหมายที่มีอยู่แต่เดิม ต้องถูกเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบบกษัตริย์เป็นระบบประชาธิปไตยแบบที่ เรียกว่า “สาธารณรัฐ” ในทวีปอเมริกา โดยมีการสถาปนาเป็นสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ.1776 และการ ปฏิวัติ ฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1789 เหตุการณ์ทั้งสองทำให้ลัทธิปัจเจกชนนิยมแพร่หลายมากขึ้น และ เช่นเดียวกับที่ระบบเศรษฐกิจเสรีได้รับการยอมรับและถือเป็นหลักสำคัญที่ใช้ในการปกครองและ จัดหาระบบเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ เกิดเป็นแนวคิดในทาง เศรษฐกิจขึ้นว่าการให้รัฐเป็นผู้ดำเนิน กิจการส่วนใหญ่ในสังคมตามแนวคิดพาณิชย์นิยมจะเป็นผลให้เศรษฐกิจของสังคมไม่อาจเจริญงอกงาม เท่าที่ควรในที่สุดระบบเศรษฐกิจเสรี (ชัยวัฒน์ วงศ์วัฒนศานต์, 2543) การปกครองรูปแบบ “สาธารณรัฐ” กำหนดให้รัฐควรมีแต่หน้าที่ตามภารกิจพื้นฐาน 4 ประการ คือ การป้องกัน ประเทศ การรักษาความสงบเรียบร้อย การติดต่อกับต่างประเทศ และการ อำนวยความยุติธรรมธรรม และมีการวางข้อห้ามไม่ให้รัฐเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการค้า และมีการออก กฎหมายต่างๆ มาเพื่อปรับปรุงรูปแบบหรือโครงสร้างทางสังคมให้เหมาะสมกับการปกครองหรือ ระบบเศรษฐกิจ โดยถือเอาแนวคิดในระบบเศรษฐกิจเสรีมาเป็นหลักในการกำหนดกฎหมายใหม่ มีการ ยอมรับให้ประชาชนทุกคนมีอิสระที่จะทำสัญญา ซึ่งเมื่อตกลงกันเช่นไรแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้นอัน เป็นไปตามลัทธิปัจเจกชนนิยม ซึ่งเท่ากับว่าทุกคนที่ทำสัญญามีหน้าที่ปกป้องประโยชน์ของตนเอง จากหลักการดังกล่าวทำให้เกิดหลักว่า “ผู้ซื้อต้องระวัง” ซึ่ งกำหนดว่าในการซื้อขายสินค้าถ้ามี ข้อบกพร่องในสินค้าอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ผู้ซื้อจะต้องรับภาระในความเสียหายนั้น เนื่องจากตนเป็นผู้ เลือกซื้อสินค้าเอง หลักการดังกล่าวนี้มีขึ้นเพราะเชื่อว่า “ทุกคนมีความรู้และความสามารถเท่าเทียม กันทุกคน จึงมีอิสระที่จะตกลงให้มีนิติสัมพันธ์เช่นใดก็ได้ ในช่วงปี ค.ศ. 1929 - 1930 เกิดวิกฤตการณ์ ทางเศรษฐกิจร้ายแรงของโลกซึ่งกระทบกระเทือนอย่างร้ายแรงต่อแนวความคิดแบบเสรีนิยมที่ถูกมอง ว่าไม่อาจเอื้อประโยชน์แก่สังคมได้ รัฐในฐานะเจ้าของทรัพยากรมากที่สุด และเป็นผู้กุมอำนาจทาง การเมืองจำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทในทางเศรษฐกิจ แทนการปล่อยให้เอกชนประกอบการอย่างเสรี โดยที่รัฐควบคุมอยู่ห่างๆ อย่างที่เป็นมาในอดีตโดยผลของความคิดนั้น การแทรกแซงทางเศรษฐกิจ โดยรัฐจึงเกิดขึ้นในทุกลักษณะ และเครื่องมือของรัฐในการดำเนินการประการหนึ่งคือ “กฎหมาย” และกฎหมายนั้นมิใช่กฎหมายเอกชนหากแต่เป็น“กฎหมายมหาชน” และกฎหมายที่จะมาจัดการกับ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3