2566-2 ฐิตา ตุกชูแสง-การค้นคว้าอิสระ
28 ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นนอกจากรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายที่มุ่งเน้นการมีบทบาทและการมีส่วนร่วม ของประชาชนในทางการเมืองซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของกฎหมายมหาชน และยังมีกฎหมายมหาชนทาง เศรษฐกิจปรากฏขึ้นตามมาด้วย และกฎหมายฉบับหนึ่งที่สามารถทำให้การจัดการเกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยรัฐดำเนินไปได้ก็คือกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค (สุรพล นิติไกรพจน์, 2534) กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคถือเป็นเครื่องมือของรัฐอย่างหนึ่งที่รัฐสามารถใช้กลไกทาง กฎหมายดำเนินการให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนในฐานะผู้บริโภค เนื่องจากรัฐได้เล็งเห็นแล้วว่า แนวโน้มที่ผู้บริโภคจะเสียเปรียบและไม่มีอำนาจในการต่อรองกับผู้ประกอบการภายใต้ระบบเศรษฐกิจ แบบเสรีมีความเป็นไปได้มาก ประกอบกับอำนาจรัฐเองในการถูกจำกัดในการเข้าแทรกแซงกิจกรรม ต่างๆ ทางเศรษฐกิจ จึงทำให้รัฐเป็นได้เพียงผู้ควบคุมการดำเนินการทางเศรษฐกิจ ภายใต้การแข่งขัน อย่างเสรี ดังนั้นการจะไปบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้อำนาจองค์กรของรัฐในการดำเนินการคุ้มครอง ผู้บริโภคหรือการแก้ไขปัญหาของผู้บริโภคจะต้องมีกฎหมายที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากกฎหมาย อื่นที่บังคับใช้ทั่วไป เนื่องจากกฎหมายในอดีตบัญญัติขึ้นเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใน ช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ปัญหาสังคมยังไม่มีความสลับซับซ้อนและเทคโนโลยีในการผลิตไม่ สลับซับซ้อนเท่าสังคมปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น หลักกฎหมายโรมันที่ยึดถือกันในหลายประเทศที่ ได้ บัญญัติให้ผู้ซื้อต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้า หากมีความเสียหายใดๆ ในสินค้าที่ซื้อ ความเสียหายจะตกเป็นของผู้ซื้อเอง หลักการนี้อาจมีความเหมาะสมในสังคมสมัยโรมันที่ต้องการให้ผู้ ซื้อใช้ความระมัดระวังในการซื้อสินค้า เมื่อตนได้มีการเลือกเลือก ดังนั้นเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น ผู้ ซื้อย่อมต้องรับผิดจากการเลือกของตนเอง เพราะถือว่าผู้ซื้อได้ล้วงรู้ความชำรุดบกพร่องหรือควรจะรู้ หากใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วเช่นนั้นผู้ขายอาจไม่ต้องรับผิด แต่ในระบบเศรษฐกิจแบบ ปัจจุบันที่เน้นการแข่งขันเสรีทางการค้าและเน้นการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ผู้ขายจำเป็น จะต้องหากลยุทธ์การรับประกันและคุ้มครองผู้บริโภคเป็นจุดขายในการทำการตลาดซึ่งผู้ซื้อที่ทำการ ซื้อสินค้าในขณะเวลาใดเวลาหนึ่งไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า ขณะซื้อจะได้รับใบ รับประกันสินค้าที่มีอายุการรับประกันกำหนดไว้เพื่อที่จะใช้เป็นเกณฑ์ในการแบ่งความรับผิดระหว่างผู้ ซื้อและผู้ขาย กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคจึงเป็นผลพวงที่เกิดขึ้นในช่วงที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงในยุคที่ เศรษฐกิจเสรีนิยมกำลังขยายตัวภายใต้ปัญหาที่กำลังก่อตัวขึ้นจากภาคเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเป็นไปได้ ว่าทฤษฎีเศรษฐกิจเสรีที่ยึดถือความสามารถของบุคคลและตัดสินใจของบุคคลบนพื้นฐานของความ เท่าเทียมกันกำลังถูกทำร้ายด้วยการเกิดขึ้นของสังคมอุตสาหกรรม เนื่องจากผู้ประกอบการที่มีอำนาจ เหนือกว่าทั้งปัจจัยทางธุรกิจ แรงงาน กำลังจะกลืนตลาดให้เป็นของตนเองเพียงผู้เดียวทำให้เกิดการ ผูกขาดตลาดได้ นอกจากนี้ยังมีแนวคิดเรื่อง “รัฐสวัสดิการ” หรือแนวคิดที่ถือวา่ รัฐในฐานะฝ่าย ปกครองเป็นผู้มีหน้าที่ในการคุ้มครองให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และถือเป็นหน้าที่ หลักของรัฐในการให้ความคุ้มครองประชาชนโดยอาศัยกลไกทางกฎหมาย และใช้อ ำนาจในการ
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3