2566-2 ฐิตา ตุกชูแสง-การค้นคว้าอิสระ
30 ลงในการทำนิติ กรรมสัญญาเพราะฉะนั้น หลักเกณฑ์หรือทฤษฎีความรับผิดในความเสียหายที่ต้อง อาศัยความผูกพันทางสัญญาที่กฎหมายรับรองจึงเป็นอุปสรรคในการคุ้มครองผู้บริโภคที่มิใช่คู่กรณีใน สัญญา ทฤษฎีทางกฎหมายที่ก่อตั้งสิทธิในการได้รับการเยียวยาชดใช้เมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น จึงไม่ คำนึงถึงหลักความสัมพันธ์ทางสัญญาแต่อย่างใด (ช่อทิพย์ สุนทรวิภาต, 2557) 3) ทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ที่เกี่ยวของกับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ตามหลักทฤษฎี ทางเศรษฐศาสตร์แล้ว ภาครัฐไม่ควรแทรกแซงตลาดยกเว้นกรณีที่มีความล้มเหลวของตลาดบาง ประการซึ่งทำให้การแข่งขันของตลาดไม่เป็นผลดีต่อผู้บริโภคและสังคมโดยรวม ความล้มเหลวทาง การตลาดที่ทำให้รัฐจำเป็นที่ต้องคุ้มครองผู้บริโภคมี 3 ประการ ดังต่อไปนี้ (1) การผูกขาดในตลาด โดยปกติถ้าตลาดมีการแข่งขันที่สมบูรณ์หรือ ตลาดที่มีผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าชนิดเดียวกันอบู่เป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์เนื่องจากมี การแข่งขันทางด้านราคาระหว่างผู้ขายด้วย และการที่มีผู้ขายเป็นจำนวนมากทำให้ผู้บริโภคสามารถ ซื้อสินค้าได้ตามระดับความพอใจสูงสุดของตนเอง อย่างไรก็ตามถ้าตลาดมีการผูกขาดเกิดขึ้นหรือกรณี ที่ผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งมีอำนาจผูกขาดตลาดซึ่ งหมายถึงมีผู้ซื้อจำนวนมาก แต่กลับมี ผู้ประกอบการรายเดียวที่ผลิตสินค้าชนิดนั้นได้ กรณีเช่นนี้ผู้ประกอบการสามารถตั้งราคาได้ตามความ พอใจของตน กรณีดังกล่าวผู้ประกอบการอาจค้ากำไรเกินควรหรือตั้งราคาขายไว้สูงเกินกว่าคุณภาพ สินค้าซึ้งเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค รัฐจึงต้องเข้ามาควบคุมหรือกำหนดอัตรากำไรสูงสุดของ ผู้ขาย เพื่อให้สินค้าหรือบริการเป็นธรรมต่อผบู้ริโภค (2) ความเหลื่อมล้ำทางด้านข้อมูลข่าวสารระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายใน ปัจจุบัน ผู้ประกอบธุรกิจส่วนใหญ่ใช้ระบบการผลิตที่มีการใช้เทคโนโลยี หรือกระบวนการผลิตที่มี ความสลับซับซ้อนทำให้การซื้อสินค้าหลายประเภทไม่สามารถตรวจสอบคุณภาพของสินค้านั้นได้ จาก ลักษณะทางกายภาพเป็นเหตุให้เกิดการเอาเปรียบผู้บริโภคได้ รัฐจึงมีหน้าที่ให้ผู้ขายหรือผู้ประกอบ ธุรกิจกำหนดรายละเอียดที่ต้องระบุไว้ในฉลากและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้ในการ โฆษณาสินค้าหรือบริการ (3) การควบคุมดูแลด้านความปลอดภัยและสุขภาพของผู้บริโภค คุณภาพ และมาตรฐานสินค้าบางประเภท โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารและยามีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย และสุขภาพของผู้บริโภค เนื่องจากผู้บริโภคไม่สามารถทราบได้ว่าการบริโภคสินค้าเหล่านี้มีความ ปลอดภัยหรือไม่ รัฐจึงต้องกำหนดคุณภาพหรือมาตรฐานขั้นตอนของสินค้าและควบคุมดูแลให้สินค้าที่ ผลิตและวางขายมีคุณภาพและมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ (สุษม ศุภนิตย์, 2557)
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3