2566-2 ฐิตา ตุกชูแสง-การค้นคว้าอิสระ

31 2.4.3 ความสำคัญของการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค เมื่อระบบเศรษฐกิจแบบเสรีเจริญเติบโตขึ้น จะมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามา ช่วยในการผลิตสินค้า รวมทั้งการประกอบการค้าในลักษณะต่างๆ มีกระบวนการผลิตที่สลับซับซ้อน มากยิ่งขึ้นการผลิตสินค้าใช้วัตถุดิบในการผลิตและมีกรรมวิธีการผลิตที่เกินกว่าความรู้ความสามารถของ ผู้บริโภคจะตามได้ทัน ผู้ประกอบธุรกิจหาวิธีการทุกวิธีทางที่จะลดค่าใช้จ่ายในการผลิตและเพิ่มผลกำไรให้ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้บางกรณีการขยายกำลังการผลิตทำให้คุณภาพของสินค้าต่ำลง อีกทั้งในเรื่องระบบ การค้าที่ได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วจากการค้าระหว่างประเทศ สินค้า หรือบริการที่ออกไปสู่ความต้องการ ของผู้บริโภคมีความหลากหลายและมีปริมาณมาก ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอันตรายจากการบริโภคสินค้าหรือ บริการอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้น การให้ความสนใจเรื่องการชดเชยความเสียหายแก่ผู้บริโภค รวมทั้งหา มาตรการคุ้มครองและป้องกันให้แก่ผู้บริโภคซึ่ งอยู่ ในฐานะเสียเปรียบจึงเป็นเรื่องสำคัญ และ นอกจากนี้หากพิจารณาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในโลกปัจจุบันไม่ได้เอื้ออำนวยความยุติธรรมแก่ ผู้บริโภคเท่าที่ควร ด้วยเหตุที่ผู้บริโภคไม่มีอำนาจต่อรองจึงเป็นความจำเป็นของรัฐบาลที่ต้องเข้ามามี ส่วนดูแลช่วยเหลือผู้บริโภค ทั้งด้านคุ้มครองป้องกันและการชดใช้เยียวยาความเสียหายแก่ผู้บริโภค จึงจำเป็นต้องมีการตรากฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค (สุษม ศุภนิตย์, 2551) กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคแบบทั่วไป โดยกำหนด หน้าที่ของผู้ประกอบธุรกิจต่อผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมตามสมควรแก่ผู้บริโภค ตลอดจนจัดให้มี องค์กรของรัฐที่เหมาะสมเพื่อตรวจตรา ดูแล และประสานงานการปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ ในการให้ ความคุ้มครองผู้บริโภค ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 นี้ได้รับการปรับปรุงแก้ไขอีก 3 ครั้ง คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2556 และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ซึ่งส่งผลให้มาตรฐานทาง กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคนั้นครอบคลุมและชัดเจนมากยิ่งขึ้น การคุ้มครองผู้บริโภคของสำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ได้บัญญัติในมาตรา 20 ให้สำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้ (1) รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย เนื่องมาจากการ กระทำของผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (2) ติดตามและสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งกระทำการลักษณะเป็นการ ละเมิดสิทธิของผู้บริโภค และจัดให้มีการทดสอบหรือพิสูจน์สินค้าหรือบริการใดๆ ตามที่เห็นสมควรและ จําเป็นเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3