2566-2 ฐิตา ตุกชูแสง-การค้นคว้าอิสระ
33 มาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค (Consumer Protection) และมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางและ แนวทาง เพื่อคุ้มครองสิทธิของตนเอง และเพื่อให้พ้นจากการโดนเอาเปรียบจากเอกชนผู้ประกอบการที่ ไม่เป็นธรรม (บวรศักดิ์ อุวรรณโณ, 2546) ต่อมามีการตรารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 เป็นรัฐธรรมนูญ ฉบับที่สองที่ให้ความสำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้นกว่าเดิม โดยมีการบัญญัติหลักเกณฑ์ใน การคุ้มครองผู้บริโภคไว้ในมาตรา 61 ซึ่ งได้มีการนำข้อความเดิมในมาตรา 57 แห่งรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาใช้และมีการตราข้อความเพิ่มจากที่มีอยู่ว่า “ผู้บริโภคมีสิทธิได้รับ ข้อมูลที่เป็นจริงมีสิทธิร้องเรียน เพื่อให้ได้รับการแก้ไขเยียวยาความเสียหาย และมีสิทธิรวมตัวกันเพื่อ พิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค” โดยให้สิทธิของบุคคลซึ่งเป็นผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครอง และมีสิทธิ ร้องเรียนเพื่อให้ได้รับการแก้ไขและเยียวยาความเสียหาย รวมทั้งมีสิทธิที่จะทำการรวมตัวเพื่อการ พิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคให้มีองค์การเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคที่เป็นอิสระจากหน่วยงานของรัฐซึ่ง ทั้งนี้ให้ รัฐสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการองค์การอิสระดังกล่าว (คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ & ธัญวรัตน์ จาราสถิตย์, 2550) ปัจจุบันมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บัญญัติใช้และได้ กำหนดให้การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคเป็น “หน้าที่ของรัฐ” โดยแยก ‘สิทธิผู้บริโภค’ ไว้เป็นสองส่วน ดังนี้ ส่วนแรกอยู่ใน ‘หมวด 3 สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย’ มาตรา 46 ซึ่งระบุ ว่า “สิทธิของผู้บริโภคย่อมได้รับการคุ้มครอง” นอกจากนี้แล้วก็ให้สิทธิในการรวมตัวจัดตั้งองค์กรเพื่อ คุ้มครองผู้บริโภคโดยรัฐจะให้การสนับสนุน ส่วนที่สองอยู่ใน ‘หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ’ มาตรา 61 กำหนดให้รัฐต้องมีมาตรการ คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคด้านการรับรู้ข้อมูลที่เป็นจริง ด้านความปลอดภัย ด้านความเป็นธรรมในการทำ สัญญา หรือด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค” อย่างไรก็ดี รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีการตัดสิทธิ ร้องเรียนเพื่อให้ได้รับการแก้ไขเยียวยาความเสียหายออก เหลือเพียงการได้รับข้อมูลที่เป็นจริง ซึ่งบัญญัติไว้ ให้เป็นหน้าที่ของรัฐและยังคงสิทธิรวมตัวกันเพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคหรือสิทธิในการรวมตัวจัดตั้ง องค์กรเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งยังเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนอยู่ จะเห็นไว้ว่าการผลักดันให้เกิดการจัดตั้ง “องค์กรอิสระ” เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นความพยายามมาตั้ งแต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 25 40 และฉบับ พุทธศักราช 2550ซึ่งในทางปฏิบัติยังไม่เป็นผลสำเร็จ และแม้จะมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3