2566-2 ฐิตา ตุกชูแสง-การค้นคว้าอิสระ

37 เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ คือ การทำธุรกรรมในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะ ปรับเปลี่ยนวิธีการในการติดต่อสื่อสารที่อาศัยการพัฒนาการเทคโนโลยีทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีความ สะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวมีความ แตกต่างจากวิธีการทำธุรกรรมซึ่งมีกฎหมายรองรับอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก อันส่งผลให้ต้องมีการ รองรับสถานะทางกฎหมายของข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เสมอกับการทำเป็นหนังสือหรือหลักฐาน เป็นหนังสือ การรับรองวิธีการส่งและรับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ การใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนการรับฟังพยานหลักฐานที่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการทำธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ให้น่าเชื่อถือ และมีผลในทางกฎหมายเช่นเดียวกับการทำธุรกรรมโดยวิธีการทั่วไปที่เคย ปฏิบัติอยู่เดิม ซึ่งในปัจจุบันมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 จากกฎหมายที่กล่าวข้างต้น มีมาตราที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิของผู้ซื้อสินค้า ผ่านทางแอพพลิเคชั่นซึ่งมีการกำหนดหลักไว้ว่า คำเสนอหรือคำสนองในการทำสัญญาอาจทำเป็น ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้และห้ามมิให้ปฏิเสธการมีผลทางกฎหมายของสัญญาเพียงเพราะเหตุที่สัญญา นั้นได้ทำคำเสนอหรือคำสนองเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ โดยในระหว่างผู้ส่งข้อมูลและผู้รับข้อมูลการ แสดงเจตนาหรือคำบอกกล่าวอาจทำเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ และบุคคลใดเป็นผู้ส่งข้อมูลไม่ว่าจะ เป็นการส่งโดยวิธีใด ให้ถือว่าข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เป็นของผู้นั้น ให้ถือว่าเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ ส่งข้อมูล ทั้งยังกำหนดว่าในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้การใดต้องทำเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็น หนังสือหรือมีเอกสารมาแสดงหรือกำหนดผลทางกฎหมายกรณีไม่ทำเป็นหนังสือไม่มีหลักฐานเป็น หนังสือหรือไม่มีเอกสารมาแสดง ถ้าได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถ เข้าถึงและนำกลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าข้อความนั้นได้ทำเป็นหนังสือมี หลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดงตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งมีการห้ามมิให้ปฏิเสธความ สมบูรณ์หรือการบังคับใช้ของสัญญาที่ทำโดยการโต้ตอบระหว่างระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทาง อิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติกับบุคคลธรรมดา หรือระหว่างระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ อัตโนมัติด้วยกัน เพียงเพราะเหตุที่ไม่มีบุคคลธรรมดาเข้าไปเกี่ยวข้องในการดำเนินการในแต่ละครั้งที่ กระทำโดยระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์อัตโนมัติหรือในผลแห่งสัญญา ทั้งนี้ปรากฏตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 มาตรา 8 มาตรา 13 มาตรา 13/2 มาตรา 14 และมาตรา 15 จะเห็นได้ว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และฉบับ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2562 ดังกล่าวมีการบัญญัติหลักกฎหมายในการคุ้มครองสัญญาซึ่งทำใน รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และมิให้มีการปฏิเสธความผูกพันของสัญญาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งกำหนดให้ มีการยอมรับฟัง พยานหลักฐานที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ไม่มีการบัญญัติกำหนดหน้าที่ของ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3