2566-2 นายภัทราวุธ ฉวีนิล-การค้นคว้าอิสระ

120 (ร่าง) ระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการขอทบทวนมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. .... โดยที่เป็นการสมควรให้มีระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยการขอทบทวนมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 36 วรรคสอง (2) มาตรา 49 วรรคหนึ่ ง มาตรา 50 วรรคสอง มาตรา 53 มาตรา 56 วรรคสองและวรรคสี่ มาตรา 70 วรรคสาม มาตรา 72 วรรคสอง มาตรา 88 วรรคสาม มาตรา 91 (2) มาตรา 98 มาตรา 99 และมาตรา 161 แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ หมวดที่ 1 บททั่วไป ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ร่างระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติว่าด้วยการขอทบทวนมติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ. ....” ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ 3 ในระเบียบนี้ “เจ้าหน้าที่รัฐ” หมายถึง ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือน ประจำ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐหรือในรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าพนักงานตามกฎหมาย ว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ หรือเจ้าพนักงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด และให้หมายความรวมถึง กรรมการ อนุกรรมการ ลูกจ้างของส่วนราชการของหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ และบุคคล หรือคณะบุคคลบรรดาที่กฎหมายกำหนดให้ใช้อำนาจ หรือได้รับมอบหมายให้ใช้อำนาจทางปกครอง ซึ่งจัดตั้งขึ้นในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐ “พยานเอกสารหลักฐานใหม่” หมายถึง พยานหลักฐานที่ยังไม่เคยปรากฏในรายงานสำนวน การไต่สวนข้อเท็จจริงที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีมติชี้มูลเจ้าหน้าที่ รัฐผู้ถูกกล่าวหา โดยไม่รวมถึงการกลับคำให้การของพยานในสำนวนรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริง ดังกล่าว นอกจากนี้ ต้องเป็นพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่รัฐผู้ถูกกล่าวหาไม่รู้หรือไม่มีเหตุอันควรรู้ ว่าพยานหลักฐานดังกล่าวนั้นมีอยู่ก่อน และต้องนำมาแสดงเพื่อประโยชน์ของตนเอง