2566-2 นายภัทราวุธ ฉวีนิล-การค้นคว้าอิสระ

14 ของผู้ถูกกล่าวหาตามขั้นตอนต่อจากกระบวนการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แห่งชาติดำเนินการสมบูรณ์เสร็จสิ้นแล้ว จึงมีอำนาจพิจารณาได้แต่เฉพาะเรื่องดุลพินิจในการ สั่งลงโทษของผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนตามฐานความผิดเดิมที่คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีมติเท่านั้น การที่ องค์กรอื่นที่มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ใช้อำนาจหน้าที่ล่วงล้ำ ฐานความผิด หรื อกระทบกระเทือนอำนาจหน้ าที่ ที่ รั ฐธรรมนูญบัญญัติรั บรองว่ า เป็นอำนาจหน้าที่ ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นการเฉพาะ การวินิจฉัยในปัญหา ข้อเท็จจริงแล้วมีการเปลี่ ยนฐานความผิดเพื่ อกำหนดโทษใหม่ จึงไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ จึง มีคำวินิจฉัยว่ า อำนาจหน้าที่ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในการไต่สวนและวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 301 วรรคหนึ่ ง (3) เพื่ อดำเนินการต่อไป ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เมื่อคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ไต่สวนและวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่ จึงเป็นอันยุติ ดังนั้น องค์กรที่มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์จึงไม่อาจพิจารณ า เปลี่ยนแปลงฐานความผิดทางวินัยตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ วินิจฉัยยุติแล้วให้เป็นประการอื่นได้อีก จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าว แสดงให้เห็น ถึงอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่มีผลผูกพันต่อทุกองค์กร ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการต่อจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในการ ที่จะต้องรับฟัง และถือข้อเท็จจริงจากการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ดำเนินการพิจารณาไต่สวนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยจะแย้งหรือไม่รับฟังการดำเนินการ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จากการที่ ได้มีมติชี้ มูลความผิด ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หาได้ไม่ 2.2. การดำเนินการทางวินัยข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทแนวทาง และวิธีการปฏิบัติราชการ เพื่ อให้ทันต่อการเปลี่ ยนแปลงและสามารถเป็นกลไกหลักในการ ขับเคลื่อนภารกิจของประเทศ โดยได้กำหนดบทบาทภารกิจของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน