2566-2 นายภัทราวุธ ฉวีนิล-การค้นคว้าอิสระ

32 ทางวินัย โดยผู้บังคับบัญชาตามมาตรา 57 สามารถที่จะเสนอพยานหลักฐานใหม่ได้ หากพิจารณาแล้ว เห็นว่า กรณีดังกล่าวไม่เป็นไปตามองค์ประกอบของฐานความผิดมุจริตต่อหน้าที่ราชการ และมี พยานหลักฐานใหม่ สามารถส่งเรื่องเพื่อขอทบทวนมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติได้ และในส่วนของพนักงานเทศบาลเมื่ อนายกเทศมนตรีหรือนายกองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่ นพิจารณาแล้วเห็นว่ า พนักงานเทศบาลผู้ นั้ นมิได้กระทำความผิดตามที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ชี้มูลความผิดหรือ ฐานความผิดตามที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้มีมติ ซึ่ งเห็นว่ ามติดั งกล่ าวนั้น เป็นการไม่ถูกต้อง นายกเทศมนตรีหรือนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็สามารถที่จะใช้สิทธิ ในการขอทบทวนมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้ แต่ในประเด็นนี้ การใช้สิทธิของผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุนั้นจะต้องดำเนินการ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องและการส่งพยานเอกสารหลักฐานจะต้องส่งถึง คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับมติจากคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งหากการส่งพยานหลักฐานเกินกำหนดระยะเวลา 30 วัน และพยานเอกสารนั้ นยั งไม่ ถึ งคณะกรรมการป้ องกั นและปราบปรามการทุ จริ ตแห่ งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ก็จะไม่รับพิจารณาทบทวนมติดังกล่าวไว้ ซึ่ งประเด็นดังกล่าวตามหนังสือแจ้งเวียนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริต. เป็นการขัดแย้งต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2561 ตามในมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ประกอบกับการดำเนินการใช้สิทธิในการทบทวนตามมาตรา 99 ดังกล่าวนั้น มิได้กำหนดเรื่องของ ระยะเวลาและขั้ นตอนของกระบวนการในการพิจารณาทบทวนมติของ คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไว้อย่างใด เพียงแต่กำหนดให้ต้องทบทวนโดยใช้ความละเอียด ความรอบคอบในการพิจารณาเท่านั้น จึงยังเป็นประเด็นปัญหาในเรื่องของระยะเวลา และการ ส่งเอกสารเพื่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีมติในการทบทวน 2.5 สิทธิของผู้ที่ถูกดำเนินการทางวินัยและของผู้ที่ถูกชี้มูลความผิด รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ได้มีการรับรองและให้การคุ้มครอง ปวงชนชาวไทยไว้ในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพ ซึ่งถูกบัญญัติไว้ในหมวดที่ 3 สิทธิและเสรีภาพของ ปวงชนชาวไทย โดยได้กำหนดหลักการใช้สิทธิและเสรีภาพของบุคคลไว้ว่า การใช้สิทธิหรือเสรีภาพนั้น ต้องไม่เป็นการกระทบกระเทือนหรือเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่กระทบกระเทือน

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3