2566-2 นายภัทราวุธ ฉวีนิล-การค้นคว้าอิสระ

78 ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติอันล่วงเลยระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่อง ย่อมหมายความว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จะไม่สามารถพิจารณาการใช้สิทธิทบทวนมติดังกล่าวได้ ประกอบกับการพิจารณาพยานหลักฐานที่ใช้ ในการทบทวนมติดังกล่าวนั้น ได้เปิดโอกาสเพียงแค่ให้สามารถนำพยานหลักฐานใหม่มาเพื่อทบทวน มติได้เท่านั้น จึงเป็นเป็นประเด็นปัญหาว่าหากพยานเอกสารซึ่ งเป็นพยานหลักฐานเก่าที่ผ่าน การไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมาแล้ว แต่พยานเอกสาร หลักฐานนั้น เป็นพยานเอกสารที่ได้มาโดยไม่ชอบหรือไม่ถูกต้องตามที่กฎหมาย หรือเป็นเอกสาร หลักฐานเท็จ พยานหลักฐานเก่าดังกล่าวจะสามารถนำมาใช้พิจารณาทบทวนมติดังกล่าวได้หรือไม่ เพียงใด และการที่ข้าราชการผู้ถูกชี้มูลความผิดไม่ทราบมติดังกล่าว จึงไม่สามารถใช้สิทธิในการ ขอทบทวนมติของคณะกรรมกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตได้นั้น ย่อมเป็นการตัดโอกาส และปิดกั้นการแสดงความบริสุทธิ์ในการกระทำของผู้ที่ถูกชี้มูลความผิด อันเป็นการสร้างความไม่เป็นธรรม กับผู้ที่ถูกชี้มูลความผิด ทั้งควรจะมีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการพิจารณาทบทวนมติของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไว้เพื่อมิให้เกิดความลักลั่นในการพิจารณา ประกอบกับการพิจารณาทบทวนมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาตินั้น หากผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุแต่งตั้งได้พิจารณาและมีความเห็น ให้ทบทวนมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ บทบัญญัติของ มาตรา 98 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2560 ซึ่งได้กำหนดไว้ว่า “การดำเนินการทางวินัยตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้บังคับบัญชา หรื อผู้ มีอำนาจแต่งตั้ งถอดถอนพิจารณาสั่ งลงโทษผู้ ถูกกล่ าวหาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ ผู้ บังคับบัญชาหรือผู้ มีอำนาจแต่งตั้ งถอดถอนได้ระบุแจ้งมติที่ ได้ขอให้คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พิจารณาทบทวนตามมาตรา 99 วรรคสอง” อันหมายความว่า หากเป็นกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้ชี้ มูลความผิดวินั ย ฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หรือฐานความผิดตามอำนาจหน้าที่แล้ว หากผู้บังคับบัญชาตามกฎหมาย ของข้าราชการผู้ถูกกล่าวหาได้ใช้สิทธิทบทวนมติดังกล่าว ย่อมเป็นข้อยกเว้นการดำเนินการสั่งลงโทษ ทางวินัยตามมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติที่ให้สั่งลงโทษภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับเรื่องตามนัยมาตรา 98 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยจะมีการสั่งลงโทษข้าราชการผู้ถูกชี้มูลความผิด หลังจากที่ได้รับแจ้งมติการทบทวนจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดังกล่าว จึงเห็นว่าการใช้อำนาจดุลยพินิจในการพิจารณาทบทวนมติดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ