2566-2 นายภัทราวุธ ฉวีนิล-การค้นคว้าอิสระ

88 และปราบปรามการทุจริตได้นั้น จะต้องเป็นการนำพยานเอกสารอันเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่ไม่ได้ ปรากฏอยู่ในสำนวนรายงานการไต่สวนมาแสดงเท่านั้น แต่หากพิจารณาถึงหลักการรับฟังพยานเอกสาร ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่ งเป็นหลักการที่แสดงถึงการรับฟังพยานหลักฐาน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นการป้องกันและเป็นการตัดตอน มิให้มีการนำพยานหลักฐานที่ ได้มา โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายมาแสดงหรือต่อสู้คดี อันส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อคู่กรณี โดยหาก เป็นกรณีที่เอกชนเป็นจำเลย และได้มีการแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้ในคดี ซึ่งการแสวงหา พยานหลั กฐ านของจำ เ ลยดั งกล่ าวนั้ น แม้ พยานหลั กฐานจะ เ ป็ นพยานหลั กฐานเ ก่า หรือพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นโดยมิชอบด้วยกฎหมายก็ตาม ศาลก็ไม่ควรที่จะตัดพยานหลักฐานดังกล่าว ควรที่จะรับฟังพยานหลักฐานนั้นไว้เพื่อนำมาชั่งน้ำหนัก เพราะหากศาลได้ตัดพยานหลักฐานดังกล่าว ไปแล้ว การพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์ของจำเลยก็จะไม่สามารถที่จะกระทำได้ ส่งผลกระทบต่อจำเลย เป็นอย่ างมาก (หยาดฝน ชู แสง, 2561) และการที่ พยานหลั กฐานตามที่ จำเลยอ้ างมานั้น เป็นพยานหลักฐานที่ เกิดจากการแสวงหาหรื อได้มาโดยมิชอบ แต่พยานหลักฐานดั งกล่ าว เป็นพยานหลักฐานที่ชอบหรือถูกต้อง ศาลก็ควรที่จะใช้ดุลยพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานดังกล่าว เพราะหากพิจารณาแล้วพยานหลักฐานดังกล่าวย่อมจะต้องมีข้อดีและข้อเสียในตัว มีคุณค่าในเชิง พิสูจน์ความบริสุทธิ์ โดยศาลจะต้องรับพยานหลักฐานไว้เพื่อพิจารณาและจะต้องชั่งน้ำหนัก ในการ พิจารณาประกอบคดี เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับจำเลยหรือโจทก์คู่กรณีในคดี (เพียงจิต ตันติจรัสวโรดม และกิตติมศักดิ์ เปียยก, 2565) เมื่อศึกษาเปรียบเทียบกรณีตามข้างต้นแล้วพบว่า การพิจารณาในการทบทวนมติ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติในการพิจารณาเรื่องของ การทบทวนมติ โดยใช้เพียงแต่พยานเอกสารหลักฐานใหม่นั้น ย่อมจะเป็นการขัดต่อหลักการของการรับฟังพยาน เอกสาร และขัดต่อหลักการจำกัดสิทธิที่ เกินควร เพราะแม้ว่าพยานเอกสารหลักฐานจะเป็น พยานเอกสารใหม่ แต่หากพยานเอกสารใหม่ที่ข้าราชการผู้ ถูกชี้ มูลความผิดได้มาโดยไม่ชอบ แต่เป็นพยานเอกสารหลักฐานที่ชอบ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ก็ย่อมจะไม่รับฟังพยานหลักฐานดังกล่าวเพื่อกลับมติเป็นแน่แท้ หรือหากพยานหลักฐานที่ยื่นขอ ทบทวนมติ แม้เป็นการยื่นพยานเอกสารเก่าที่อยู่ในสำนวนรายงานการสอบสวนของคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแล้วก็ตาม โดยยื่นขอทบทวนพยานเอกสารอันเป็นเอกสารเก่า โดยมีการกล่าวอ้างถึงความชอบของการแสวงหาพยานเอกสารหลักฐาน หรือพยานเอกสารนั้น ได้มาโดยมิชอบ แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติก็ควรที่จะ รั บฟั งพยานเอกสารตามข้ างต้ นไว้ พิ จารณา โดยจะต้ องมี การชั่ งน้ ำหนั กถึ งคุณและโทษ