2566-2 ปวริศา ผลกล้า-วิทยานิพนธ์

16 ก่อสร้างที่ต้องใช้ตารางกะและความต้องการทางกายภาพสูงอาจกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นตามอายุ ของคนงาน (Carol M. Wong และ Lois E. Tetrick, 2017) ดังนั้น การที่ผู้สูงอายุต้องการที่จะทางาน จะต้องทางานที่ตนเองมีประสบการณ์และ เหมาะสมกับสภาพร่างกาย ไม่เป็นงานที่หนักเกินไปและไม่เป็นงานที่เสี่ยงอันตราย เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุ ได้รับอันตรายจากการทางาน 2.3.2 ทฤษฎีด้านจิตใจของผู้สูงอายุกับงาน (Psychological Domain) ผู้สูงอายุต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อีกทั้งเผชิญกับความรู้สึกและอารมณ์ ที่เปลี่ยนแปลง ผู้สูงอายุต้องปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ มีผู้สูงอายุจานวนไม่น้อย ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกไร้ค่าและอาการซึมเศร้า ทฤษฎีที่เกี่ยวกับจิตใจของ ผู้สูงอายุมีดังนี้ หลักพัฒนาการทางจิตสังคม (Personality Development) Psychosocial Theory of Human Development) Erik Erikson นักจิตวิทยา (1902-1994) ได้อธิบายพัฒนาการทางจิต สังคม โดยเชื่อว่าบุคคลจะมีพัฒนาการตลอดช่วงชีวิตโดยอาจเป็นไปในลักษณะที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ ได้แบ่ง พัฒนาการทางจิตสังคมในวัยผู้สูงอายุไว้ในขั้นที่แปดว่าผู้สูงอายุเป็นระยะเวลาที่บุคคลจะทบทวน ประสบการณ์ในอดีต ถ้าพบว่าตนเองทาหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วก็จะเกิดความพอใจมีบุคลิกภาพที่ เข้มแข็งมีอารมณ์มั่นคง ก่อให้เกิดความมั่นคงทางใจที่เรียกว่า Integrity แต่หากรู้สึกว่าผิดหวัง งานที่ ตนเองทายังไม่ประสบความสาเร็จในชีวิต ก็จะเกิดความรู้สึกสิ้นหวังไร้ค่าที่เรียกว่า Despair โดยได้ สรุปว่างานด้านจิตสังคมหลักของวัยผู้ใหญ่ตอนปลาย อายุ 65 ปีขึ้นไป คือการรักษาความ สมบูรณ์ของอัตตา (ยึดมั่นในความรู้สึกที่สมบูรณ์) ในขณะที่หลีกเลี่ยงความสิ้นหวัง ผู้ที่ประสบ ความสาเร็จในงานขั้นสุดท้ายนี้ยังพัฒนาสติปัญญา ซึ่งรวมถึงการยอมรับโดยไม่รู้สึกเสียใจกับชีวิตที่เคย มีชีวิตอยู่ แม้ผู้สูงวัยที่มีความซื่อสัตย์สุจริตในระดับสูงก็อาจรู้สึกสิ้นหวังในขั้นตอนนี้ขณะที่พวกเขา ครุ่นคิดถึงอดีตของตน ไม่มีใครผ่านชีวิตไปได้โดยไม่สงสัยว่าเส้นทางอื่นอาจมีความสุขและเกิดผล มากกว่าหรือไม่ ทฤษฎีหลักสองทฤษฎีอธิบายลักษณะทางจิตสังคมของการสูงวัยในผู้สูงอ ายุ ทฤษฎี ความหลุดพ้นมองว่าความชราเป็นกระบวนการของการถอนตัวร่วมกันซึ่งผู้สูงอายุสมัครใจชะลอการ เกษียณอายุตามที่สังคมคาดหวัง ผู้เสนอทฤษฎีการหลุดพ้นถือว่าการถอนตัวออกจากสังคมร่วมกันเป็น ประโยชน์ต่อทั้งบุคคลและสังคม ในทางกลับกันทฤษฎีกิจกรรม จะเห็นความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่าง การรักษาความกระตือรือร้นและความชราที่ดี ผู้เสนอทฤษฎีกิจกรรมถือว่าการถอนตัวทางสังคมซึ่งกัน และกันสวนทางกับอุดมคติของกิจกรรม พลังงาน และอุตสาหกรรมของอเมริกาแบบดั้งเดิม จนถึง ปัจจุบัน การวิจัยไม่ได้แสดงว่ารุ่นใดรุ่นหนึ่งดีกว่ารุ่นอื่น กล่าวอีกนัยหนึ่ง การแก่ขึ้นหมายถึงสิ่งต่าง ๆ สาหรับคนที่แตกต่างกัน บุคคลที่ดาเนินชีวิต อย่างกระตือรือร้นในวัยหนุ่มสาวและวัยกลางคนอาจจะยังคงเคลื่อนไหวได้เมื่อเป็นผู้ใหญ่ ในขณะที่ผู้ที่ ไม่ค่อยกระตือรือร้นอาจรู้สึกไม่มีส่วนร่วมมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการมีปฏิสัมพันธ์อย่าง เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว โดยเฉพาะบุคคลสาคัญในแต่ละวัย ร่วมกับต้องมีรากฐานของ พัฒนาการในลาดับก่อนหน้าที่ดี ผู้สูงอายุควรทาใจยอมรับทั้งความสาเร็จและความล้มเหลวอย่าง เข้าใจรู้จักชีวิตและปล่อยวาง เพื่อให้เกิดความสุขสงบในชีวิตต่อไป ดังที่กล่าวไปแล้วว่าการที่ผู้สูงอายุ จะมีความมั่นคงทางใจ (Integrity) ในบั้นปลายชีวิตได้นั้น จาต้องผ่านกระบวนการในการจัดการกับข้อ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3