2566-2 ปวริศา ผลกล้า-วิทยานิพนธ์

26 (4) กรณีโครงการขององค์กรภาคเอกชนหรือองค์กรของผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับการสนับสนุน งบประมาณจากส่วนราชการ และแหล่งทุนอื่น ๆ เว้นแต่กรณีได้รับแต่ไม่เพียงพอ (5) โครงการลักษณะอื่น ๆ ที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติหรือคณะกรรมการ เห็นสมควรให้การสนับสนุน การให้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพรายบุคคลและรายกลุ่ม มีรายละเอียด ดังนี้ (คณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ, 2552) 1. ให้กู้ยืมรายบุคคลได้คนละไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งเดิมให้กู้ยืมรายละไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งใช้มาตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2549 - 11 กุมภาพันธ์ 2552 2. ให้กู้ยืมเงินเป็นรายกลุ่ม ๆ ละไม่น้อยกว่า 5 คน ได้กลุ่มละไม่เกิน 100,000 บาท ทั้งนี้ การให้การสนับสนุนเงินทุนประกอบอาชีพทั้งรายกลุ่มและรายบุคคลจะต้องชาระคืนเป็น รายงวด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย คุณสมบัติของผู้ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนผู้สูงอายุ บุคคลหรือองค์กรที่จะขอรับการสนับสนุนจากกองทุนผู้สูงอายุได้ ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ 1) กรณีบุคคล ต้องมีคุณสมบัติดังนี้ ต้องเป็นผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีความจาเป็นในการขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมประกอบ อาชีพ มีความสามารถในการประกอบอาชีพในเรื่องที่ขอรับการสนับสนุน มีสภาพร่างกายแข็งแรง สามารถประกอบอาชีพได้ มีปัจจัยในการสนับสนุนการประกอบอาชีพ มีสถานที่ในการประกอบอาชีพ ของผู้กู้ยืมอยู่ภายในจังหวัดเดียวกันกับที่ผู้กู้ยืมได้ยื่นคาร้องขอผู้ยืมไว้ และไม่เป็นผู้ค้างชาระ เงินกองทุนผู้สูงอายุ 2) องค์กรผู้สูงอายุหรือองค์กรที่ทางานด้านผู้สูงอายุ กรณีเป็นหน่วยงานภาครัฐ ต้องเป็นหน่วยงานที่มีอานาจหน้าที่เกี่ยวกับการคุ้มครอง การ ส่งเสริมและการสนับสนุน ผู้สูงอายุ รวมทั้งได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการ ดาเนินงานตามประกาศสานักนายกรัฐมนตรี เรื่องกาหนดหน่วยงานรับผิดชอบในการดาเนินการ ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2547 หรือมีหน้าที่ดาเนินการ ในการคุ้มครองการส่งเสริมและการสนับสนุนผู้สูงอายุตามประกาศ ของกระทรวง กรณีเป็นองค์กร ภาคเอกชนหรือองค์กรของผู้สูงอายุ ต้องเป็นองค์กรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือได้รับการรับรอง เป็นองค์การสาธารณะ ประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม การจัดสวัสดิการสังคม ซึ่งดา เนิน กิจกรรมเกี่ยวกับการคุ้มครอง การส่งเสริม การสนับสนุนผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 เดือน หากเป็นองค์กรที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่ได้รับรองเป็นองค์กรสาธารณะ ประโยชน์ตาม กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม การจัดสวัสดิการสังคม จะต้องดาเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการคุ้มครอง การ ส่งเสริมและการสนับสนุนผู้สูงอายุต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี และมีส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ หรือ องค์กรของผู้สูงอายุที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือองค์กรสาธารณะประโยชน์รับรองว่าเป็น องค์กรที่มีผลงาน เกี่ยวกับการคุ้มครองการส่งเสริมและการสนับสนุนผู้สูงอายุ สานักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร สานักงบประมาณของรัฐสภา

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3