2566-2 ปวริศา ผลกล้า-วิทยานิพนธ์
54 กรณีผู้สูงอายุได้กู้ยืมเงินจากกองทุนผู้สูงอายุไปแล้ว ไม่อาจชาระหนี้ได้ ให้นาระเบียบ คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ว่าด้วยการตัดจาหน่ายหนี้สูญของกองทุน ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2553 มาใช้ บังคับโดยอนุโลม” 4.2 กาหนดระยะเวลาการคืนเงินกู้ยืมเงินกองทุนผู้สูงอายุเพื่อประกอบอาชีพ การที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับผิดชอบกองทุนผู้สูงอายุ ตาม พระราชบัญญัติผู้สูงอายุ พ.ศ.2546 มาตรา 13 ซึ่งกาหนดให้มีการจัดตั้ง"กองทุนผู้สูงอายุ" ขึ้นใน สานักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนา สังคมฯ เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ผู้สูงอายุในด้านต่างๆ ทั้งได้เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงและ กู้ยืมเงินเพื่อการประกอบอาชีพให้สามารถสร้างรายได้และพึ่งพาตนเองได้ เมื่อพิจารณาเกี่ ยวกับ ระยะเวลาการคืนเงินกู้ยืมเงินกองทุนผู้สูงอายุเพื่อประกอบอาชีพ เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เข้าถึงการส่งเสริม การประกอบอาชีพและสามารถพึ่งพาตนเองได้ เนื่องจากเมื่อผู้สูงอายุที่ต้องการประกอบอาชีพได้ กู้ยืมเงินจากกองทุนผู้สูงอายุเพื่อประกอบอาชีพแล้วนั้น ได้มีการกาหนดระยะเวลาคืนเงินไว้ใน ประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนผู้สูงอายุ เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ให้การสนับสนุนทาง การเงินจากกองทุนผู้สูงอายุ 2549 ข้อ 5 วรรคหนึ่ง (3) กาหนดให้ชาระเงินกู้ยืมคืน ภายในระยะเวลา ไม่เกิน 3 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตาม การคืนเงินให้กับกองทุนผู้สูงอายุ พบว่า ยังมีการผิด นัดชาระหนี้ ด้วยภาวะเศรษฐกิจและวิกฤตทางด้านโรคอุบัติใหม่ เช่น โรคโควิด19 และโควิดสายพันธุ์ ใหม่ XBB ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พลิกผัน ไม่แน่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด เห็นได้จากการที่โรคโควิด19 ทาให้ ผู้คนไม่สามารถประกอบกิจการค้าขายได้เป็นเวลา 2 ปี หรือปัญหาที่เกิดจากอุทกภัยน้าท่วมในแต่ละ จังหวัด เหตุการณ์เหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบันทันด่วน ส่งผลให้ผู้กู้ยืมเงินไม่สามารถชาระ หนี้คืนภายในระยะเวลาที่กาหนดไว้ได้ นอกจากนี้ระยะเวลาที่กาหนดไว้ในข้อ 5 วรรคหนึ่ง (3) กาหนดให้ชาระเงินกู้ยืมคืน ภายใน ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปีนั้น เป็นการกาหนดระยะเวลาที่น้อยเกินไป หากผู้กู้ยืมประสบกับปัญหาและ เหตุการณ์ที่พลิกผัน รวมถึงภาวะทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่สามารถหาเงินมาชาระคืนได้ ทันภายในกาหนดระยะเวลา 3 ปี เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับการชาระเงินคืนของกองทุนส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ข้อ 11 ที่กาหนดให้ผ่อนชาระเงินกู้ยืมเงินภายใน 5 ปี โดยไม่มี ดอกเบี้ยตามระเบียบคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติฯ พ.ศ. 2552 พบว่ากองทุนคนพิการและกองทุนผู้สูงอายุต่างมีเป้าหมายให้กู้ยืมเงินกองทุนไปประกอบอาชีพเพื่อ สร้างรายได้ให้กับตนเองเหมือนกัน แต่กลับกาหนดระยะเวลาการชาระเงินกู้ยืมคืนกองทุนที่แตกต่าง กัน เมื่อกองทุนผู้สูงอายุให้กู้ยืมเงินในการประกอบอาชีพรายละ 30,000 บาท มีระยะเวลาชาระคืน เงินกู้ไม่เกิน 3 ปี คานวณการผ่อนชาระเดือนละประมาณ 834 บาท รวมจานวน 36 เดือน ส่วน กองทุนคนพิการกาหนดระยะเวลาคืนเงินเป็นเวลา 5 ปี คานวณการผ่อนชาระคืนเดือนละ 500 บาท รวมจานวน 60 เดือน เมื่อพิจารณาถึงแนวคิดรัฐสวัสดิการ ได้จัดให้มีเงินกองทุนกู้ยืมให้กับกลุ่มเปราะบางที่เป็น ผู้สูงอายุและคนพิการ เพื่อประกอบอาชีพ สร้างรายได้ โดยมุ่งเน้นในการพึ่งพาตนเองนั้น นับว่าเป็นสิ่ง ที่ดีกับประชาชนทั้ง 2 กลุ่ม แต่ระยะเวลาการผ่อนชาระคืนการกู้ยืมเงิน กลับมีความแตกต่างกัน
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3