2566-3 -ดาวนภา พิทักษ์ - วิทยานิพนธ์

74 จัดการและการแบ่งแยกกลุ่มผู้กระทำความผิดที่มีลักษณะการกระทำความผิดที่แตกต่างกัน เช่น ไม่ สามารถแยกผู้ค้ารายย่อยกับผู้ค้ารายใหญ่ออกจากกัน เป็นต้น เมื่อกลุ่มคนเหล่านี้ได้รับโทษและ ออกมานั้นสังคม ไม่ยอมรับ ไม่สามารถหาวิถีทางอื่นในการดำเนินชีวิตได้จึงจำเป็นต้องกลับมาก่อ ความผิดในลักษณะนี้ซ้ำในอนาคต จึงทำให้เห็นว่ากฎหมายเกี่ยวกับระบบการติดตามผู้พ้นโทษใน ปัจจุบันนั้นยังไม่ได้ครอบคลุมถึงผู้ที่กระทำความผิดในคดียาเสพติดฐานอื่นๆ ที่นอกเหนือจากฐาน ความผิดเสพและครอบครองเพื่อเสพ การศึกษาระบบการติดตามผู้พ้นโทษในคดียาเสพติดจำเป็นต้องอาศัยแนวคิดของหลักสิทธิ มนุษยชนมาประกอบร่วมด้วยเนื่องจากสิทธิมนุษยชเป็นสิ่งที่ทุกคนได้รับติดตัวตั้งแต่เกิด เป็นสิทธิและ เสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นในด้านสิทธิ เสรีภาพ ความยุติธรรม ความเป็นอิสระและความเสมอภาคของบุคคลที่ได้รับการรับรองรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทยในหมวด 3 เรื่องของสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทยเพื่อให้การใช้สิทธิและ เสรีภาพของประชาชนเป็นไปอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งสิทธิมนุษยชนนั้นเป็นอันไม่สามาถจะพรากออก ได้แต่แต่บางครั้งสิทธิมนุษยชนอาจถูกจำกัด เช่น หากทำผิดกฎหมาย โดยในประเด็นของการติดตาม ผู้พ้นโทษนั้นหากได้รับการลงโทษจำคุกตามคำพิพากษาครบแล้วหรือการได้รับพระราชทานอภัยโทษ ย่อมมีอิสระในการใช้ดำเนินชีวิตในภายหลังได้รับการปล่อยตัว เนื่องจากถือว่าได้ชดใช้ความผิดที่ได้ กระทำไปแล้วแต่หากภายหลังสังคมเห็นว่าบุคคลดังกล่าวยังมีพฤติการ์ณที่เป็นภัยต่อสังคมอยู่ กฎหมายจะเข้ามา ในการป้องกันและเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรม สร้างความปลอดภัยให้สังคม เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม แก้ไขปัญหาและลดอัตราการกระทำผิด ซ้ำของผู้พ้นโทษในภายหลัง ซึ่งมีบทบัญญัติบางประการที่อาจจะเป็นเรื่องของการจำกัดสิทธิและ เสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยในมาตรา 26 โดยระบุไว้ว่าการตรากฎหมาย ที่มีผลเป็นการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในกรณีที่รัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติเงื่อนไขไว้ กฎหมายดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม ไม่เพิ่มภาระ หรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุและจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของ บุคคลมิได้ รวมทั้งต้องระบุเหตุผลความจำเป็นในการจำกัดสิทธิเสรีภาพไว้ด้วยและต้องมีผลใช้บังคับ เป็นการทั่วไป ไม่มุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่กรณีใดกรณีหนึ่งหรือแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเจาะจง มาตรา 28 บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายการจับและการคุมขังบุคคลจะกระทำมิได้ เว้นแต่มีคำสั่งหรือหมายของศาลหรือมีเหตุอย่างอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ การค้นตัวบุคคลหรือ การกระทำใดอันกระทบกระเทือนต่อสิทธิหรือเสรีภาพในชีวิตหรือร่างกายจะกระทำมิได้ เว้นแต่มีเหตุ ตามที่กฎหมายบัญญัติ การทรมาน ทรุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้ายหรือไร้มนุษยธรรม

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3