2566-3 -รัชวุฒิ ช่อดอก- การค้นคว้าอิสระ
2 โดยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อเป็นกฎเกณฑ์กลางหรือกฎระเบียบ วางหลักการ รองรับการดาเนินคดีของศาลในทุกขั้นตอน นับตั้งแต่ยื่นฟ้อง ระบบตุลาการได้มีความก้าวหน้าอย่าง มากในการปรับปรุงกระบวนการจัดการคดีทางกฎหมาย ด้วยการนาระบบยื่นและส่งคาคู่ความและ เอกสารทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ ประธานศาลฎีกาได้ปูทางไปสู่การดาเนินคดีที่มีประสิทธิภาพและ สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการอนุญาตให้ใช้วิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ในการดาเนินคดี รวมทั้งการสืบพยานและ การฟังพยานหลักฐาน ศาลสามารถให้บริการที่รวดเร็วยิ่งขึ้นแก่ผู้ที่ต้องการขอความช่วยเหลือทาง กฎหมาย กฎระเบียบที่ออกโดยประธานศาลฎีกาไม่เพียงทาให้กระบวนการยื่นและส่งเอกสารง่ายขึ้น แต่ยังทาให้การจัดทารายการคดีและคาพิพากษาในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ทาได้ง่ายขึ้น การก้าวไปสู่ การแปลงเป็นดิจิทัลไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังขจัดความจาเป็นในการขอสาเนาและ การรับรองอีกด้วย ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรสาหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาและการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวของศาลยุติธรรมช่วยลดปัญหาการจัดการ คดีของศาลยุติธรรมที่มีจานวนมาก ลดการมาศาลของประชาชนที่ต้องมายื่นฟ้องคดี ลดความแออัด อันเนื่องมาจากพื้นที่ของศาลแต่ละแห่งมีอยู่อย่างจากัด ลดภาระในการดูแลและจัดเก็บสานวนความ ซึ่งมีจานวนมาก ทาให้พื้นที่ของศาลที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการเพิ่มขึ้นของสานวนความในทุกปี ในเวลาต่อมาได้มีข้อกาหนดของประธานศาลฎีกาว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 ออกมารองรับกระบวนพิจารณาของศาลเพื่ อให้สามารถทาในรูปแบบของระบบ อิเล็กทรอนิกส์ได้จนเสร็จสิ้น โดยข้อกาหนดของประธานศาลฎีกาฉบับนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นมา หลังจากที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ศาลยุติธรรมได้มีการปรับตัวให้เข้า กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงออกแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารจัดการคดีในสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ฉบับที่ 21 ลงวันที่ 10 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติในการ จัดการคดีในช่วงที่มีโรคระบาดเกิดขึ้นว่าจะต้องมีการจัดการคดีอย่างไร โดยสาระสาคัญของการ สืบพยานในคดีอาญาตามแนวปฏิบัตินี้คือ “ให้ใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หากไม่สามารถดาเนินการ ได้ให้ใช้วิธีปกติ” ส่วนในคดีแพ่งได้กาหนดไว้ว่า “ถ้าคู่ ความพร้อม ให้ดาเนินคดีโดยวิธีทาง อิเล็กทรอนิกส์ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พร้อม ให้ดาเนินคดีตามปกติโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เท่าที่ ทาได้” ด้วยเหตุนี้จะเห็นได้ว่า แม้ว่าโดยหลักแล้วจะให้นาวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ได้ทั้งใน คดีอาญาและคดีแพ่งก็ตาม แต่หากไม่สามารถดาเนินการได้ให้ใช้วิธีปกติ หรือหากไม่พร้อม ให้ใช้วิธี ทางอิเล็กทรอนิกส์เท่าที่ทาได้การพัฒนาและการนาระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปใช้โดยศาลยุติธรรมเป็นตัว เปลี่ยนเกมในการลดความท้าทายในการจัดการคดีจานวนมาก ด้วยความสามารถในการยื่นฟ้องคดี ทางอิเล็กทรอนิกส์ จานวนคนที่มาศาลลดลงอย่างเห็นได้ชัด ลดความแออัดและประหยัดพื้นที่ศาล อันมีค่า นอกจากนี้ ยังแบ่งเบาภาระในการบารุ งรักษาและจัดเก็บเอกสารจานวนมาก ทาให้
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3