2566-3 -รัชวุฒิ ช่อดอก- การค้นคว้าอิสระ
120 ต้องการ วิธีการคือการเก็บสถิติ การใช้วิชาคณิตศาสตร์มาประยุกต์กับเหตุการณ์ทางสังคม ดังนั้นนัก สังคมศาสตร์ก็คือ นักวิชาการประเภท หนึ่งที่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ตามแบบฉบับของนักวิทยาศาสตร์ โดยแท้ โดยเขาเหล่านี้มีความรู้สึกว่าสังคมนั้นเป็นเสมือนวัตถุที่สามารถทดลองได้ และสังคมจะ เปลี่ยนแปลงได้โดยการใช้เครื่องมือที่ถูกต้องสังคมสมัยใหม่อยู่ เสมอ ในหนังสือ อุ ดมการณ์ยุค เครื่องจักร: วิศวกรรมสังคมและเสรีนิยมอเมริกัน, พ.ศ. 2454-2482 เขียนโดยจอห์น เอ็ม. จอร์แดน มี ข้อมูลระบุว่าในอเมริกาประมาณสี่สิบถึงห้าสิบปีก่อนหน้านี้ ในปี พ.ศ. 2452 อเมริกาตระหนักถึง ความสาคัญ ถึงจุดที่ต้องควบคุมพื้นที่ให้กว้างขึ้น เป็นผลให้นักสังคมศาสตร์มีส่วนร่วมในการสารวจ ภายในประเทศ การสงคราม และการออกแบบศูนย์ควบคุมอุตสาหกรรม ในปีพ.ศ. 2472 ในช่วงต้น ศตวรรษ สภาวะทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่สามารถย้อนกลับได้เกิดขึ้น ทาให้เกิดกระแสความ สนใจในแนวคิดเรื่องสังคม วิศวกรรม. แม้ว่าบางคนเชื่อว่ามันไม่ได้เป็นศูนย์กลางของการแก้ปัญหา แต่ คนอเมริกันส่วนใหญ่กาลังประท้วงมุมมองที่แคบนี้ วิศวกรสังคมตั้งสมมติฐานว่าการผลักดันความ ปรารถนาทางการเมืองอย่างไร้เหตุผลสามารถนาไปสู่ปัญหาที่แพร่หลาย โดยเน้นถึงความจาเป็นใน การใช้แนวทางทางวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหาสังคม งาน New York World's Fair เป็นงานที่มุ่ง สร้างวิธีการที่มีประสิทธิภาพสาหรับการฟื้นฟูทางการเมือง โดยจัดแสดงแนวคิดทางวิศวกรรมเชิง นวัตกรรม นักการศึกษามีบทบาทสาคัญในการกาหนดทัศนคติและพฤติกรรมด้วยการมุ่งเน้นไปที่การ มีอิทธิพลต่อคนรุ่นอนาคต นักสังคมศาสตร์ซึ่งทาหน้าที่เป็นนักวิชาการมากกว่านักวิทยาศาสตร์แบบ ดั้งเดิม ทางานเพื่อทดลองกับสังคมและทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงผ่านเครื่องมือและวิธีการที่เหมาะสม การแสวงหาสังคมใหม่ที่ดีกว่าคือการทางานร่วมกันซึ่งอาศัยความเชี่ยวชาญของวิศวกร นักการศึกษา และนักสังคมศาสตร์ แนวคิดแนวคิดเรื่องวิศวกรรมสังคมของรอสโค พาวน์ เป็นเรื่องที่ เกี่ยวข้องสัมพันธ์ระหว่าง แนวคิดเรื่องประโยชน์นิยมในแนวคิดทางกฎหมายกับเรื่องสังคมวิทยากฎหมาย ผนวกเข้ากับแนวคิด วิศวกรสังคม ทั้งสามแนวความคิดนี้ เป็นการประยุกต์แนวความคิดในทางปรัชญาหรือนิติปรัชญาและ การปฏิรูปสังคมและข้อเรียกร้องไปสนับสนุนแนวความคิด จากการศึกษาวิชากฎหมายส่วนมากเราจะ คุ้นชินกับการศึกษากฎหมายเชิงกฎเกณฑ์ (Normative legal theory) เป็นหลัก แต่ยังมีแนวทางของ การศึกษากฎหมายอีกประเภทหนึ่งที่พยายามจะทาความเข้าใจกฎหมายในฐานะของปรากฏการณ์ที่ เกิดขึ้นในสังคม (Sociology of Law) พร้อมกับสารวจตรวจสอบพิจารณาดูบริบทเงื่อนไขทางสังคมที่ มีกฎหมายมีการบังคับใช้อยู่ในขณะนั้นเป็นเช่นไร ซึ่งตามปกติการศึกษากฎหมายเชิงสังคมวิทยานั้นจะ ตั้งอยู่บนฐานความคิดที่เชื่อมโยงกันคือ การตระหนักถึงกฎหมายเป็นเพียงเครื่องมือในการควบคุมทาง สังคมรูปแบบหนึ่งเท่านั้น และกฎหมายเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้น และจะต้องมีการ วิเคราะห์สารวจมโนทัศน์ถึงกฎหมายตามความเป็นจริง (law in Action) แนวคิดของประโยชน์นิยม นั้นเข้าไปเกี่ยวข้องกับกฎหมายในฐานะที่เป็นนิติศาสตร์เชิงจริยศาสตร์ (Ethical Jurisprudence) ที่
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3