2566-3 -รัชวุฒิ ช่อดอก- การค้นคว้าอิสระ

121 วางทับซ้อนกันเกี่ยวกับประเด็นเรื่องของความยุติธรรม ในกระบวนการนิติบัญญัติที่สัมพันธ์กับ อรรถประโยชน์หรือความยุติธรรมกับตัวบทในทางกฎหมาย ประโยชน์นิยมยังถือเอาคุณค่าในการ ตัดสินกฎหมายกับปริมาณความสุขของมวลชนเป็นเกณฑ์เกี่ยวกับการตรากฎหมายขึ้นมา ในหนังสือ The Theory of Legislation ของแบนธัม ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการนิติบัญญัติว่าเป็นการ ส่งเสริมหรือการสร้างคุณงามความดีให้เกิดแก่สาธารณชน ผู้ตรากฎหมายจึงใช้หลักอรรถประโยชน์ เป็นพื้นฐานของการให้เหตุผลในการบัญญัติกฎหมาย หลักของประโยชน์นิยมตั้งอยู่บนข้อที่ว่ามนุษย์ เราตกอยู่ภายใต้เจ้านายสองคน คือ ความสุข(Pleasure) และความทุกข์ (Pain) ประโยชน์นิยมแสดง ให้เห็นถึงคุณสมบัติหรือแนวโน้มของมนุษย์ที่จะป้องกันความชั่วร้ายและให้ได้มาซึ่งความดี ความดีนั้น คือความสุข ส่วนความชั่วร้ายที่ว่านั้นคือ ความทุกข์ กฎหมายที่ดีนั้นคือกฎหมายที่สอดคล้องกับหลัก อรรถประโยชน์คือกฎหมายที่ทาให้เกิดปริมาณความสุขมากที่สุดแก่เอกชนในสังคม ( Hedonistic Principle)แนวคิดของวิศวกรรมสังคมของ Roscoe Pound คือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิด เรื่องประโยชน์นิยมในความคิดทางกฎหมายและสังคมวิทยาของกฎหมาย เมื่อรวมกับแนวคิดของ วิศวกรรมสังคม แนวคิดทั้งสามนี้จะสร้างแนวทางแบบไดนามิกเพื่อทาความเข้าใจบทบาทของ กฎหมายในสังคม การศึกษาทฤษฎีกฎหมายเชิงบรรทัดฐานถือเป็นรากฐาน แต่สังคมวิทยาของ กฎหมายจะเจาะลึกเข้าไปในบริบททางสังคมที่มีการบังคับใช้กฎหมาย การศึกษาที่เชื่อมโยงถึงกันนี้ ตระหนักดีว่ากฎหมายไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการควบคุม แต่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่หล่อ หลอมและหล่อหลอมโดยสังคม ลัทธิประโยชน์นิยมเพิ่มชั้นอีกชั้นหนึ่ง เชื่อมโยงการพิจารณาทาง จริยธรรมของความยุติธรรมเข้ากับกระบวนการนิติบัญญัติ โดยเน้นไปที่ความสุขและความอยู่ดีมีสุข ของมวลชน ผู้บัญญัติกฎหมายสามารถออกกฎหมายที่ส่งเสริมคุณธรรมและความดีแก่ส่วนรวมได้ หลักการอรรถประโยชน์นี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจว่ากฎหมายสอดคล้องกับเป้าหมาย ในการเพิ่มความสุขสูงสุดและลดความทุกข์ทรมาน โดยพื้นฐานแล้ว กฎหมายที่ดี คือ กฎหมายที่นามา ซึ่งความสุขอันสูงสุดแก่บุคคลในสังคม สะท้อนถึงความปรารถนาพื้นฐานของมนุษย์ต่อความดีและ ความอยู่ดีมีสุข(สมยศ เชื้อไทย, 2550) แนวคิดเรื่องนิติศาสตร์เชิงสังคมวิทยา มีจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาธรรมชาติของ "กฎหมาย” ที่ เกี่ยวข้องกับสังคม ทิมเชฟ์ฟ (Timasheff) กล่าวว่า มีจาเป็นอย่างยิ่ งในการที่ จะอธิบายคาว่า "นิติศาสตร์เชิงสังคมวิทยา" ว่าเป็นสิ่งที่ใช้ในการบังคับกาหนดพฤติกรรมของมนุษย์โดยจาเพาะเจาะจง ในสังคมและกฎหมายเป็นสิ่งที่ถูกตราขึ้นเพื่อจะใช้ภายในกลุ่มสังคมเท่านั้น กลุ่มสังคมที่ว่านี้คือ องค์ประกอบของระบบทางโครงสร้างที่สาคัญที่สุด ในแนวคิดของนักปรัชญาสมัยใหม่ ได้กาหนด ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้เพื่อเป็นจุดแบ่งระหว่างบุคคลกับความสัมพันธ์ความสัมพันธ์(ด้านกฎหมาย)ที่ สร้างขึ้นมาใหม่นี้จะไม่ทาลายการดารงอยู่ของแต่ละบุคคลในสังคม สังคมจึงจะมีแบบฉบับที่เข้มแข็ง ของการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม ทฤษฎีนิติศาสตร์เชิงสังคมวิทยานั้นก่อกาเนิดเค้าลางขึ้นตั้งแต่สมัย

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3