2566-3 -รัชวุฒิ ช่อดอก- การค้นคว้าอิสระ

138 ประเทศไทยเป็นผลที่เป็นรูปธรรมของสาระสาคัญข้างต้น แม้จะปรากฏหลักฐานว่าความคิดในการ แยกกระบวนการยุติธรรมทางอาญาสาหรับเด็กและเยาวชนออกจากกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ทั่วไปในประเทศไทยนั้นมีมาตั้งแต่สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ผ่านการออกกฎหมาย 2 ฉบับ ซึ่ง ได้แก่ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดี เด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 ก็ตามเมื่อพิจารณาประเด็นข้างต้นกับข้อเท็จจริงของประเทศไทย จะเห็น ได้ว่าประเทศไทยมีความก้าวหน้าอย่างมากในการจัดตั้งกระบวนการยุติธรรมทางอาญาแยกต่างหาก สาหรับเด็กและเยาวชน การแยกกันอยู่นี้เป็นผลจากการยอมรับว่าเยาวชนต้องการแนวทางที่แตกต่าง ออกไปในการจัดการกับเรื่องทางกฎหมาย แนวความคิดในการแยกระบบสาหรับเยาวชนมีให้เห็นใน ประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว นับตั้งแต่ที่มีการตรากฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชน และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและเยาวชน กฎหมายเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ของประเทศไทยในการรับประกันว่าผู้กระทาความผิดรุ่นเยาว์จะได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม และ ได้รับโอกาสในการฟื้นฟูและกลับคืนสู่สังคม แนวทางที่ก้าวหน้านี้เป็นตัวอย่างเชิงบวกสาหรับประเทศ อื่นๆ ที่ต้องการปรับปรุงระบบความยุติธรรมสาหรับเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญาดังกล่าวเด็กทุกคนที่ถูกกล่าวหาจะต้อง ได้รับหลักประกัน ดังนี้ 1) ได้รับการสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์ จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่ามีความผิดตาม กฎหมาย 2) ได้รับแจ้งข้อหาทันทีและโดยตรง และในกรณีที่เหมาะสมโดยผ่านบิดามารดาหรือ ผู้ปกครองตามกฎหมาย นอกจากนี้เด็กที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาจะได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย หรือทางอื่นที่เหมาะสมในการต่อสู้คดี 3) ได้รับการตัดสินโดยไม่ชักช้าโดยหน่วยงานหรือองค์กรทางตุลาการที่มีอานาจเป็น อิสระและเป็นกลางในการพิจารณาความอย่างยุติธรรมตามกฎหมาย 4) ไม่ถูกบังคับให้เบิกความหรือสารภาพผิด สามารถซักถามหรือซักค้านพยาน และ ให้พยานของตนเข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงให้มีการซักถามพยานแทนตนภายใต้เงื่อนไขแห่งความเท่า เทียมกัน 5) หากมีการตัดสินว่าได้มีการฝ่าฝืนกฎหมายอาญา ให้การทบทวนกระทาโดย หน่วยงานหรือองค์กรทางตุลาการที่มีอานาจเป็นอิสระและเป็นกลางในระดับสูงขึ้นไป 6) ได้รับความช่วยเหลือของล่ามโดยไม่คิดมูลค่า หากเด็กไม่สามารถเข้าใจหรือพูด ภาษาที่ใช้อยู่ 7) ในทุกขั้นตอนของกระบวนการพิจารณาต้องเคารพต่อเรื่องส่วนตัวของเด็กอย่าง เต็มที่ในระบบยุติธรรม สิ่งสาคัญคือต้องจาไว้ว่าบุคคลจะถูกสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ว่ามี