2566-3 -รัชวุฒิ ช่อดอก- การค้นคว้าอิสระ
153 ยื่นฟ้องคดีเองไม่จาเป็นต้องมีตัวจาเลยมาศาลในวันยื่นคาฟ้อง เพราะก่อนที่ศาลจะประทับรับฟ้อง จาเลยยังไม่มีฐานะเป็นจาเลย ซึ่งต้องผ่านขั้นตอนในการไต่สวนมูลฟ้องมาก่อน หากไต่สวนมูลฟ้องแล้ว คดีมีมูล ศาลสั่งประทับรับฟ้อง จาเลยจึงจะมีฐานะเป็นจาเลยในวันที่ศาลสั่งคดีมีหมาย และจะมีการ หมายเรียกให้จาเลยมาสอบคาให้การในนัดสอบคาให้การที่จะกล่าวต่อไป นอกจากนี้ พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและ ครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 99 ได้กาหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมในการฟ้องคดีอาญาในกรณีราษฎร เป็นโจทก์ฟ้องคดีเองไว้ว่า จะต้องผ่านกระบวนพิจารณาของผู้อานวยการสถานพินิจมาก่อน กล่าวคือ เมื่อผู้อานวยการสถานพินิจได้รับการร้องขอของผู้เสียหายที่จะฟ้องคดีอาญา ผู้อานวยการสถานพินิจ จะต้องดาเนินการสืบสวนและสอบสวนว่าข้อกล่าวหานั้นมีมูลสมควรอนุญาตให้ผู้เสียหายฟ้องหรือไม่ แล้วแจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่าอนุญาตให้ฟ้องหรือไม่อนุญาตให้ฟ้องต่อไป แต่ในทางปฏิบัติยังไม่มีการ นามาปรับใช้อย่างแท้จริง เนื่องจากมีขั้นตอนกระบวนการ เฉพาะที่เป็นกระบวนการของสถานพินิจ โดยกระบวนการดาเนินการตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธี พิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มีดังนี้ ประการแรก ในกรณีที่ผู้เสียหายประสงค์จะฟ้องคดีอาญาซึ่งมีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชน กระทาความผิดต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ผู้ เสียหายจะต้องยื่ นคาร้องขออนุญาตฟ้องต่อ ผู้อานวยการสถานพินิจซึ่งมีหลักในการพิจารณา ดังนี้ - กรณีจะฟ้องต่อศาลที่เด็กหรือเยาวชนที่ถูกกล่าวหามีถิ่นที่อยู่ปกติ จะต้องยื่นคาร้องขอ อนุญาตจากผู้อานวยการสถานพินิจในเขตอานาจซึ่งเด็กหรือเยาวชนที่ถูกกล่าวหานั้นมีถิ่นที่อยู่ปกติ - กรณีจะฟ้องต่อศาลในท้องที่ที่เด็กหรือเยาวชนกระทาความผิด จะต้องยื่นคาร้องขออนุญาต จากผู้อานวยการสถานพินิจในเขตอานาจซึ่งเด็กหรือเยาวชนกระทาความผิด โดยทั่วไปการยื่นฟ้องคดีอาญาเด็กหรือเยาวชนควรเริ่มต้นคดีด้วยการยื่นคาร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวนเพราะจะได้มีการตรวจสอบในเรื่องพยานหลักฐานจากพนักงานสอบสวนและ พนักงานอัยการ ดังนั้น เมื่อผู้เสียหายมีความประสงค์จะยื่นฟ้องคดีด้วยตนเอง สถานพินิจควรแนะนา ให้ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์และดาเนินการตามขั้นตอนปกติ แต่หากผู้เสียหายยืนยันและมีความ ประสงค์จะยื่นฟ้องด้วยตนเอง สถานพินิจมีหน้าที่รับคาร้องขออนุญาตในการฟ้องคดีของผู้เสียหาย เพื่อพิจารณาดาเนินการต่อไป ประการที่สอง เมื่อผู้เสียหายยื่นคาร้องขออนุญาตฟ้องคดีอาญาซึ่งมีข้อหาว่าเด็กหรือเยาวชน กระทาความผิดต่อผู้อานวยการสถานพินิจ ให้ผู้อานวยการสถานพินิจตรวจสอบว่าเอกสารหลักฐาน ประกอบในคาร้อง มีความครบถ้วนและเพียงพอที่จะพิจารณามีคาสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาต หาก ตรวจสอบแล้วว่าเอกสารครบถ้วนจึงดาเนินการรับคาร้อง และแจ้งวันนัดสอบถ้อยคาให้ผู้เสียหาย ทราบ จากนั้นจึงจะมีคาสั่งภายใน 15 วัน
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3