2566-3 -รัชวุฒิ ช่อดอก- การค้นคว้าอิสระ

173 กรณีเช่นนี้ให้ถือสื่อ ภาพและเสียงคาให้การของพยานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของคาเบิกความของพยาน นั้นในชั้นพิจารณาของศาล โดยให้คู่ความถามพยานเพิ่มเติม ถามค้านหรือถามติงพยานได้ ทั้งนี้ เท่าที่ จาเป็นและภายในขอบเขตเท่าที่ศาลเห็นสมควร และในมาตรา172 จัตวา ให้นาบทบัญญัติในมาตรา172ตรี มาใช้บังคับโดยอนุโลมแก่การสืบพยานนอกศาลในคดีที่พยานเป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี แต่อย่างไรก็ตามมาตรา 172 ตรี ไม่ได้ให้ใช้กับกรณีที่จาเลยอ้างตนเองเป็นพยาน ถึงแม้จาเลย จะเป็นเด็ก และต้องการที่จะให้ศาลจัดให้อยู่ในสถานที่เหมาะสม ก็ไม่อาจทาได้เนื่องจากมาตรา 172 ตรี ไม่ได้ให้อานาจไว้ ซึ่งได้มีกรณีเปรียบเทียบกับต่างประเทศ ยกตัวอย่าง รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีกฎหมาย Walfare and Institutions Code (WIC) ที่ให้เด็กเลือกใช้เทคโนโลยีทางไกลในการพิจารณาได้ โดย ไม่ได้จากัดว่าเด็กจะอยู่ในฐานะใด แต่ของประเทศไทย หากเด็กเป็นจาเลยไม่อาจใช้สิทธิ์ตามมาตรา 172 ตรี ได้ เมื่อพิจารณารวมกับข้อ 5. แห่งข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยการสืบพยานคดีอาญา ในลักษณะประชุมทางจอภาพที่กาหนดว่า ให้ศาลใช้ดุลพินิจให้สืบพยานนอกศาลในลักษณะการ ประชุมผ่านจอภาพเฉพาะในกรณีที่มีเหตุจาเป็น และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ตรีของประเทศไทยข้างต้น พบว่าศาลจะเป็นผู้มีอานาจใช้ดุลพินิจว่าจะอนุญาตให้ใช้การ สืบพยานผ่านจอภาพหรือไม่ ซึ่งแตกต่างกับ Walfare and Institutions Code (WIC) ดังนั้นเมื่อการชั้นสืบพยานเป็นขั้นตอนการพิจารณาที่มีความสาคัญ ส่งผลต่อการที่เด็กจะถูก ลงโทษว่ากระทาความผิดในความผิดฐานใด หรือถูกยกฟ้องเนื่องจากศาลฟังไม่ได้ความว่าเด็กกระทา ความผิดหรือไม่ การสืบพยานในห้องพิจารณาจะทาให้เห็นอากัปกิริยาท่าทางในการตอบคาถามของ เด็กหรือพยานที่เป็นเด็ก ผู้วิจัยจึงเห็นว่า ไม่ควรอนุญาตหรือให้นาระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการ สืบพยานคดีอาญาในศาลเยาวชนและครอบครัว 4. การอ่านคาพิพากษา การอ่านคาพิพากษาเป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนพิจารณาของศาลว่าจะมีการตัดสินลงโทษ จาเลยอย่างไร หรือพิพากษายกฟ้องเนื่องจากว่าจาเลยไม่ได้กระทาความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง การฟังคาพิพากษาในคดีอาญาของศาลเยาวชนและครอบครัวต่างกับคดีอาญาทั่ วไป เนื่องจากในคดีเยาวชนและครอบครัวให้กระทาเป็นการลับแต่ในคดีอาญาทั่วไปสามารถอ่านโดย เปิดเผยได้ ซึ่งเมื่อในคดีอาญาในศาลเยาวชนและครอบครัวได้กาหนดไว้แล้วจึงไม่ต้องนาประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาปรับใช้อีก อย่างไรก็ตามในการอ่านคาพิพากษาในคดีเยาวชนและครอบครัวจะแบ่งได้เป็นกรณีที่จาเลย ถูกคุมขังอยู่ในสถานพินิจและอยู่ในการดูแลของผู้ปกครอง แสดงว่าหากเป็นกรณีที่จาเลยถูกคุมขังอยุ่ ในสถานพินิจก็อาจนาระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ได้ เมื่อพิเคราะห์ไปถึงหฃลักประโยชน์สูงสุดของเ ด็ก หากเด็กหรือเยาวชนเลือกที่จะไม่ต้องเดินทางมาศาลก็ควรเปิดโอกาสให้นาระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้