2566-3 -รัชวุฒิ ช่อดอก- การค้นคว้าอิสระ
17 ถึงในส่วนของสติปัญญา การศึกษาอบรม ภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพ ฐานะของเด็กหรือเยาวชน หรือ ฐานะของบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือบุคคลซึ่งเด็กหรือเยาวชนอาศัยอยู่ ตลอดจนนิ่งแวดล้อมทั้งปวงที่ มีส่วนผลักดันให้กระทาความผิด ซึ่งศาลจะต้องคานึงถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ เหล่านี้เป็นประเด็นที่สาคัญ นอกเหนือไปจากข้อเท็จจริงที่ว่าเด็กกระทาผิดจริงหรือไม่เพื่อศาลเยาวชนจะได้สั่งใช้วิธีการที่เหมาะสม กับลักษณะของเด็กหรือเยาวชนในส่วนที่สองของการพิจารณาของศาลเยาวชนและครอบครัว เห็นได้ ชัดว่าการมุ่งเน้นไม่เพียงแต่ความผิดที่เด็กหรือเยาวชนกระทาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปิดเผยสาเหตุ เบื้องหลังที่นาไปสู่การกระทาของพวกเขาด้วย ศาลคานึงถึงปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้ องกับ ผู้กระทาผิด รวมถึงอายุ ประวัติพฤติกรรม ความฉลาด การศึกษา และสภาพจิตใจ นอกจากนี้ ศาลยัง พิจารณาบทบาทของพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือบุคคลที่เด็กอาศัยอยู่ด้วยในการกาหนดพฤติกรรมของตน ด้วยการเจาะลึกความซับซ้อนเหล่านี้ ศาลสามารถปรับการแทรกแซงที่เหมาะสมกับลักษณะเฉพา ะ ส่วนบุคคลของเด็กหรือเยาวชนได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขต้นตอของการกระทาของพวกเขาใน ท้ายที่สุด และป้องกันความผิดในอนาคต 3) เจตนารมณ์ประการที่สามเพื่อนาวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมมาใช้กับเด็กเป็นรายบุคคล ในประการที่สามนี้นั้นทางศาลเยาวชนและครอบครัวจะนาสาเหตุแห่งการกระทาผิด ไปประกอบกับข้อเท็จจริง และสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับตัวเด็กที่กระทาผิดแล้ว จึงจะทาการพิพากษาสั่ง ลงโทษหรือใช้วิธีการสาหรับเด็กและเยาวชนโดยคานึงถึงสวัสดิภาพและอนาคตของเด็ก ซึ่งควรจะ ได้รับการฝึกอบรมสั่งสอนยิ่งกว่าการลงโทษ และวิธีการที่ศาลเยาวชนและครอบค รัวนี้สั่งให้ใช้นี้ยัง สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้อีกในภายหลังแล้วแต่พฤติการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้กระทาผิดโดยไม่ ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่ และในกรณีที่เด็กหรือเยาวชนร่วมกันกระทาความผิด เช่น ร่วมกันลักทรัพย์ หรือ ชิงทรัพย์ ศาลเมื่อพิจารณากับข้อเท็จจริงสิ่งแวดล้อมต่างเกี่ยวกับตัวผู้กระทาผิดแล้ว ศาลอาจพิจารณา และพิพากษาแตกต่างกันได้ ตัวอย่างเช่น นายดา นายขาว นายเหลือง อายุ 17 ปีเท่า กันร่วมกันทา ความผิดฐานชิงทรัพย์ เมื่อศาลพิจารณาแล้วอาจพิพากษาแตกต่างกันได้ เช่น นายดา จากประวัติ ข้อเท็จจริงเป็นผู้มีความประพฤติไม่ดี เคยกระทาผิดมาหลายครั้ง ศาลอาจสั่งจาคุก 1 ปีเลยก็ได้ ส่วน นายขาวพิจารณาจากประวัติสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ แล้ว ศาลพิพากษาให้ส่งตัวไปฝึกและอบรมในสถาน พินิจเป็นระยะเวลา 1 ปี ก็ได้ ส่วนนายเหลือง พิจารณาจากประวัติข้อเท็จจริงอื่นแล้ว ศาลอาจสั่งรอ การลงโทษโดยกาหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติไว้ก็ได้ด้านที่ 3 นี้ ศาลเยาวชนและครอบครัวมี บทบาทสาคัญในการพิจารณาสาเหตุของการกระทาผิด สภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก และข้อเท็จจริง ของคดี เพื่อพิจารณาพิพากษาลงโทษเด็กที่กระทาความผิดอย่างเหมาะสม แทนที่จะลงโทษผู้กระทา ความผิดที่เป็นเด็ก ศาลมุ่งเน้นไปที่สวัสดิภาพและอนาคตของพวกเขา โดยเลือกใช้วิธีการที่มุ่งฟื้นฟู และฝึกอบรมพวกเขา สิ่งที่ทาให้ศาลแห่งนี้แตกต่างคือความสามารถในการปรับตัวและเปลี่ยนแปลง วิธีลงโทษที่เลือกไว้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้กระทาผิด โดยไม่ต้องยื่นฟ้องคดีใหม่
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3