2566-3 -รัชวุฒิ ช่อดอก- การค้นคว้าอิสระ
87 เปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างราบรื่น ซึ่งธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ไม่เพียงแต่เชื่อถือได้ เท่านั้น แต่ยังมีผลผูกพันทางกฎหมายด้วย โดยพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มีหลักการที่สาคัญ คือ ประการแรก หลักความเท่าเทียม ซึ่งหมายถึงความเท่าเทียมกันระหว่างการใช้ เอกสารที่อยู่ในรูปของกระดาษ และการใช้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ กล่าวคือ การติดต่อสื่อสารหรือการผูก นิติสัมพันธ์ผ่านสื่อที่ได้อยู่ในรูปแบบของกระดาษ หรือการทาธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ต้อง ให้ผลทางกฎหมายที่เท่าเทียมกัน ประการที่สอง หลักความเป็นกลางทางเทคโนโลยี รวมทั้งหลักความเป็นกลางของ สื่อ กล่าวคือ ในการติดต่อสื่อสารจะต้องไม่มีการเลือกปฏิบัติทางเทคโนโลยีหนึ่งโดยเฉพาะ โดย กฎหมายฉบับนี้เปิดกว้างเพื่อรองรับการติดต่อสื่อสารด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบ คือ บางช่วงอาจมีการจัดทาข้อความให้อยู่ในรูปของจ้อมูลดิจิทัลทางโทรศัพท์ โทรสาร หรือ การติดต่อ ผ่านทางคอมพิวเตอร์ซึ่งกาหนดให้โปรแกรมอัตโนมัติทาการแทนและวางหลักเพื่อการรองรับทาง เทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีการพัฒนาขึ้นในอนาคตในโลกเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่าง รวดเร็วในปัจจุบัน หลักการของความเท่าเทียมและความเป็นกลางทางเทคโนโลยีมีความสาคัญ มากกว่าที่เคย หลักการแรกของความเท่าเทียมกันทาให้มั่นใจได้ว่าทั้งเอกสารกระดาษแบบดั้งเดิมและ ข้อมูลคอมพิวเตอร์สมัยใหม่มีน ้าหนักทางกฎหมายเท่ากันในการสื่อสารและการทาธุรกรรม วิธีนี้จะ ช่วยลดอคติต่อสื่อรูปแบบหนึ่งเหนือสื่อรูปแบบอื่น หลักการที่สอง ความเป็นกลางทางเทคโนโลยี ส่งเสริมการเข้าถึงการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกรูปแบบอย่างยุติธรรมและเท่าเทียมกัน โดยไม่ คานึงถึงเทคโนโลยีเฉพาะที่ใช้ สิ่งนี้จะสร้างพื้นที่แข่งขันที่เท่าเทียมกันสาหรับบุคคลและธุรกิจทั้งหมด ซึ่งปูทางไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในอนาคต ด้วยการสนับสนุนหลักการเหล่านี้ เราสามารถ ยอมรับภูมิทัศน์ทางดิจิทัลที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา และรับประกันว่าทุกคนมีโอกาสที่เท่าเทียมกันในการ สื่อสารและมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ทางกฎหมาย ประการที่สาม ขอบเขตในการบังคับใช้กฎหมาย พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 กาหนดขอบเขตไว้ใช้เป็นการทั่วไป กล่าวคือ ให้ใช้บังคับแก่การทาธุรกรรม ในทางแพ่งและพาณิชยืที่ดาเนินการโดยใช้ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด เว้นแต่ ธุรกรรมที่มีพระราช กฤษฎีกากาหนดมิให้นาพระราชบัญญัตินี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนมาใช้บังคับ และให้ใช้บังคับแก่การ ดาเนินงานของรัฐด้วย ซึ่งในปัจจุบันได้มีการออกพระราชกฤษฎีกากาหนดประเภทธุรกรรมในทางแพ่ง และพาณิชย์ที่ยกเว้นมิให้นาพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้บังคับ พ.ศ.2549 ซึ่งกาหนดมิให้นากฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาใช้กับธุรกรรมที่เกี่ยวกับมรดกและ ครอบครัว เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนซึ่ งอาจไม่เหมาะสมกับประเพณีและวัฒนธรรมไทย นอกจากนี้ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ยังมีหลักการที่สาคัญอีก
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3