2566-3 -สรวิชญ์ ตะเอ -วิทยานิพนธ์

35 หรืออาจกำหนดเป็นผลงานตามที่ทำได้จริง ซึ่งในกรณีหลังผู้รับเหมาจะต้องจัดทำรายการ ละเอียดการเสนอราคา (Bidding Form) ซึ่งประกอบไปด้วยบัญชีปริมาณงาน (Bill of Quantities or B.O.Q.) และราคาต่อหน่วย (Unit Price) ด้วยเพื่อให้สะดวกต่อการคิดค่า งานที่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากนั้นยังมีประโยชน์อย่างมากในกรณีที่เจ้าของงานมีการ เพิ่มหรือลดงานก่อสร้างก็สามารถคำนวณค่างานที่เพิ่มหรือลดได้โดยสะดวกอย่างยุติธรรม หากมีการกําหนดให้ใช้ตารางราคาข้างต้นในการคิดคำนวณเพิ่มหรือลดไว้ในเงื่อนไขทั่วไปใน สัญญาจ้าง 2. สัญญาแบบกำหนดวงเงินก่อสร้างสูงสุด (Guarantee Maximum Prices) สัญญาประเภทนี้คล้ายกับสัญญาแบบรวมยอดเพียงผู้รับเหมายินดีรับประกันวงเงินก่อสร้าง สูงสุดไว้ให้ซึ่งกรณีนี้ผู้รับเหมากับเจ้าของงานอาจมีการบริหารงานร่วมกันเพื่อศึกษาหาทางที่ จะลดค่าก่อสร้างในส่วนต่างๆลงโดยผลที่ประหยัดขึ้นมาได้โดยทั่วไปก็จะมีการแบ่งส่วนหนึ่ง ให้กับเหมาเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ทั้งนี้ไม่รวมถึงงานพิเศษนอกเหนือจากแบบและ ข้อกำหนดในสัญญาซึ่งเจ้าของงานอาจมากำหนดเพิ่มขึ้นภายหลัง 3. แบบราคาต้นทุนบวกค่าดำเนินการคงที่ (Cast Plus File) สัญญาแบบนี้เหมาะ กับในกรณีเจ้าของงานต้องการให้งานก่อสร้างเริ่มต้นเร็วและแล้วเสร็จตามเวลา ซึ่งค่อนข้าง วิกฤตหรือในกรณีที่เป็นงานพิเศษซึ่งยังไม่มีผู้รับเหมาที่มีประการณ์พอในการวิเคราะห์ราคา ทำให้การเสนอราคาทำได้ยาก ดังนั้นสัญญาประเภทนี้อาจจะเริ่มดำเนินการได้ทันทีโดยมี เพียงแบบร่างขั้นต้นแต่ในการทำงานของผู้รับเหมาการบันทึกบัญชีต้นทุนก่อสร้างเป็นสิ่ง สำคัญมากโดยจะต้องทำอย่างถูกต้องและละเอียดพร้อมที่จะให้ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนใน การจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ การจ่ายเงินเดือน การเช่าเครื่องจักร เป็นต้น การเบิกจ่ายค่างานก็จะ ทำจากบันทึกค่าใช้จ่ายจริงบวกด้วยค่าดำเนินการเป็นสัดส่วนที่ตกลงกัน ทั้งนี้เจ้าของงานและ ผู้รับเหมาต้องค่อนข้างมีความเชื่อใจซึ่งกันและกันตลอดจนการกำหนดต้องโปร่งใสทั้งสองฝ่าย ในบางกรณีจะมีการบันทึกต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงตามบัญชี ซึ่งอาจข้อโต้แย้งได้ง่ายเจ้าของงาน และผู้รับจ้างก่อสร้างอาจมีการจัดทำตารางต้นทุนต่อหน่วยมาตรฐานไว้ ตั้งค่าวัสดุและค่าแรง สำหรับงานต่างๆเพื่อใช้คำนวณต้นทุนค่าก่อสร้างแล้วจึงบวกค่าดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้ 4. แบบบริหารงานก่อสร้าง (Construction Management) สัญญาประเภทนี้จะใช้ ในกรณีทำงานก่อสร้างในโครงการขนาดใหญ่ มีความซับซ้อนของงานมากซึ่งทั่วไปเจ้าของ งานอาจจะจ้างผู้ออกแบบหรือผู้รับจ้างบริหารงานก่อสร้างต่างหากเพื่อควบคุมดูแลการ บริหารงานก่อสร้าง โดยอาจจะครอบคลุมตั้งแต่ช่วงเตรียมงานก่อสร้างการจัดหาผู้รับเหมา ตลอดจนควบคุมงานก่อสร้างและประสานงานระหว่างผู้รับเหมาและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับ โครงการ ตลอดจนการบริหารด้านอื่นๆ เช่น การจัดทำงบประมาณก่อสร้าง การควบคุม

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3