2566-3-ปวริศา เอียดทิม-วิทยานิพนธ์

26 การทรมาน หมายถึง การกระทำใดก็ตามโดยเจตนาที่ทำให้เกิดความเจ็บปวด หรือความ ทุกข์ทรมานอย่างสาหัส ไม่ว่าทางร่างกายและทางจิตใจต่อบุคคลใด บุคคลหนึ่ง เกินกว่าที่ได้กำหนดไว้ ว่าเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย การประทุษร้าย หมายถึง การกระทำหรือการลงโทษอื่นใดที่เป็นการทารุณโหดร้าย ไร้ มนุษยธรรม หรือลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งไม่ถึงกับเป็นการทรมาน การกระทำทรมานใดๆ อัน เป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีอย่างกว้างขวางหรือเป็นระบบต่อประชาชนพลเมือง โดยรู้เห็นในการโจมตี นั้น ถือเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ผู้ต้องขังจะต้องไม่ถูกนำไปทดลองทางการแพทย์หรือทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ซึ่งอาจทำให้ สุขภาพเสื่อมโทรม แม้ว่าพวกเขาจะยินยอมก็ตาม เช่นเดียวกับการทรมานและการประทุษร้าย การ หายสาบสูญโดยใช้กำลังบังคับ และการสังหารชีวิตอย่างรวบรัด เป็นเรื่องต้องห้ามโดยสิ้นเชิง เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายทุกคนต้องได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน และได้รับการศึกษาเกี่ยวกับการ ห้ามกระทำการทรมานและการประทุษร้าย การให้ปากคำใดๆ อันเป็นผลมาจากการทรมานจะต้องไม่ ถูกหยิบยกมาใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีใดๆ เว้นแต่เป็นพยานหลักฐานในการนำผู้กระทำ ผิดมารับความยุติธรรม ต้องไม่นำคำสั่ งของผู้บังคับบัญชามาอ้างความถูกต้องของการทรมาน เจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายอาจใช้กำลังเฉพาะเมื่อมีความจำเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น บุคคลใดก็ตามที่อ้าง ว่าตนถูกทรมาน มีสิทธิที่จะร้องเรียน และมีการดำเนินคดีโดยฉับพลันและมีการตรวจสอบอย่างเป็น กลางโดยหน่วยงานที่มีอำนาจ การเสียชีวิตในที่คุมขังและการหายสาบสูญของผู้ต้องขังทุกรายจะต้องมี การสอบสวนอย่างเหมาะสม กฎระเบียบทั้งหมดในการสอบสวน คำสั่ง วิธีการและข้อปฏิบัติที่เกี่ยวกับ ผู้ถูกควบคุมตัวหรือผู้ต้องขัง จะต้องได้รับการพิจารณาทบทวนอย่างเป็นระบบด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อ ป้องกันการทรมาน บุคคลที่ถูกลิดรอนเสรีภาพจะต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานที่ซึ่งกำหนดอย่างเป็น ทางการให้เป็นสถานคุมขังต้องมีการจัดเก็บบันทึกข้อมูลของผู้ถูกลิดรอนเสรีภาพทุกคนโดยละเอียด ผู้ต้องขังทุกคนต้องได้รับข้อมูลแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับเรื่องกฎระเบียบที่ต้อง ปฏิบัติ และสิทธิและหน้าที่ของตน ครอบครัว ผู้แทนทางกฎหมาย และในบางกรณีรวมถึงผู้แทน ทางการทูตของผู้ต้องขัง ต้องได้รับข้อมูลโดยครบถ้วนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการควบคุมตัว และ สถานที่ควบคุมตัว ผู้ต้องขังทุกคนจะต้องได้รับการตรวจร่างกายอย่างถูกต้องและได้รับการบำบัดรักษา โดยเร็วที่สุดภายหลังจากได้รับตัวไว้ (กรมราชทัณฑ์, 2561c) 2.4.3 การทำให้เรือนจำเป็นสถานที่ปลอดภัย (Making Prisons Safe Places) การใช้กำลัง รวมถึงการใช้อาวุธปืน เพื่อป้องกันการหลบหนี ควรนำมาใช้เฉพาะในกรณีที่ วิธีการที่รุนแรงน้อยกว่านั้นไม่เพียงพอที่จะป้องกันการหลบหนี อาจใช้การพันธนาการเฉพาะ เพื่อเป็น การป้องกันไม่ให้มีการหลบหนีระหว่างการขนย้ายและต้องไม่ใช้ในเวลายาวนานเกินความจำเป็น และ ต้องถอดพันธนาการออกเมื่อผู้ต้องขังปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม หรือฝ่าย บริหาร หรือด้านการแพทย์เรือนจำควรมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนที่ต้องอยู่ข้างในและ ทำงานข้างใน กล่าวคือปลอดภัยสำหรับผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ และผู้มาเยี่ยมในเรือนจำไม่มีผู้ใดที่