2566-3-ปวริศา เอียดทิม-วิทยานิพนธ์
47 ดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาโดยศาลอุทธรณ์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ศาลอุทธรณ์ว่าจะรับ อุทธรณ์ไว้พิจารณาหรือไม่ เนื่องจาก The Criminal Appeal Act 1968 มาตรา 16A (2) กําหนดให้ การรับอุทธรณ์ไว้พิจารณาเป็นดุลยพินิจโดยเฉพาะของศาลอุทธรณ์ เว้นเสียแต่ว่า อุทธรณ์ดังกล่าวนั้น จะได้รับการรับรองว่าสมควรได้รับการพิจารณาในชั้นอุทธรณ์จากผู้พิพากษาในศาล ที่พิจารณาออก คำสั่งดังกล่าว กระบวนการภายหลังจากที่จําเลยถูกศาลออกคำสั่งให้ส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ปรากฎว่าสภาพจิตของจําเลยดีขึ้น มาตรการในการดำเนินการของประเทศอังกฤษได้กําหนดให้ รัฐมนตรีภายหลังจากการปรึกษาหารือกับจิตแพทย์ผู้ทําการรักษาจําเลยแล้ว สามารถออกคำสั่งนําตัว จําเลยกลับเข้าสู่การดำเนินคดีต่อไปหรือออกคำสั่งให้ส่งตัวจําเลยกลับไปคุมขังอยู่ในเรือนจำได้ และใน กรณีดังกล่าว เมื่อใดที่จําเลยกลับสู่การพิจารณาคดีในศาลหรือกลับเข้าสู่เรือนจำแล้ว ก็ให้ถือว่า คำสั่ง ให้ส่งตัวจําเลยไปรักษายังโรงพยาบาลของศาลนั้นเป็นอันสิ้นผลไปโดยปริยาย ทั้งนี้เป็นไปตาม มาตรา 5A (4) แห่ง The Criminal Procedure (Insanity) Act 1964 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมขึ้น โดย Domestic Violence, Crime and Victims Act 2004 มาตรา 24 (1) จากการพิจารณามาตรการในการดำเนินคดีอาญาแก่ผู้ต้องหาหรือจําเลยผู้วิกลจริต ของ ประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นถึงหลักเกณฑ์สำคัญที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 1) การตรวจสอบคำสั่งให้ส่งตัวจำเลยไปควบคุมตัวไว้รักษาในสถานพยาบาล ประเทศ อังกฤษมีการบัญญัติมาตรการในการดำเนินการของศาลเพื่อออก คำสั่งใดๆ เกี่ยวกับจําเลยผู้ต้องสงสัย ว่าจะมีอาการผิดปกติทางจิตหรือวิกลจริตไว้อย่างค่อนข้างรัดกุม ตั้งแต่ในศาลชั้นต้น โดย The Criminal Procedure (Insanity) Act 1964 มาตรา 4 กำหนดไว้ อย่างชัดเจนว่า การพิจารณา พยานหลักฐานที่เป็นความเห็นของแพทย์ซึ่งเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ ประกอบการวินิจฉัยเพื่อออกคำสั่ง เกี่ยวกับจําเลยผู้วิกลจริตนั้น ต้องประกอบด้วยความเห็นของแพทย์ อย่างน้อย 2 คนขึ้นไป และแพทย์ หนึ่งในคณะผู้ทําความเห็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวช ศาสตร์ที่ได้รับการรับรองจากแพทย สภาของอังกฤษอีกด้วย อันเป็นบทบัญญัติที่สร้าง ความน่าเชื่อถือให้แก่พยานหลักฐานที่ศาลนำมาใช้ พิจารณาในการออกคำสั่งได้อย่างดี นอกจากนี้ประเทศอังกฤษยังมีมาตรการในการตรวจสอบคำสั่งให้ส่งตัว จําเลยไปควบคุม ตัวไว้รักษาในสถานพยาบาลอีกชั้นหนึ่งโดยศาลอุทธรณ์ เนื่องบทบัญญัติ มาตรา 16 A แห่ง The Criminal Appeal Act กําหนดให้จําเลยที่ไม่พอใจในคำสั่งสามารถอุทธรณ์คำสั่งให้ส่งตัวไป ควบคุม ไว้ในสถานพยาบาลของศาลได้ทันที แม้ในพระราชบัญญัติ The Criminal Appeal Act จะกําหนดให้ เป็นการอุทธรณ์ในระบบดุลยพินิจ คือศาลอุทธรณ์มีอำนาจดุลยพินิจที่จะรับหรือไม่รับ อุทธรณ์ไว้ พิจารณาก็ได้ แต่ก็เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้จําเลยผู้ต้องเสียหายจากการออกคำสั่งของ ศาลได้ใช้ สิทธิของตนในการโต้แย้งคำสั่งของศาลที่กระทบต่อสิทธิของตนอย่างชอบธรรมแล้ว 2) กระบวนการในการนำตัวจำเลยกลับเข้าสู่การดำเนินคดีภายหลังเข้ารับการรักษาตาม คำสั่งของศาล ประเทศอังกฤษมีการกำหนดมาตรการในการดำเนินการภายหลังจากการนําตัวจําเลยผู้ วิกลจริตไปรักษาในสถานพยาบาลตามคำสั่งของศาลไว้เป็นลายลักษณ์ อักษรที่ชัดเจนโดยปรากฎใน
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3