2566-3-ปวริศา เอียดทิม-วิทยานิพนธ์

49 ข้อจํากัด ในการปล่อยตัวดังกล่าวเสียก็ได้ รวมถึงรัฐมนตรีก็อาจออกคำสั่งยกเลิกข้อจํากัดในการปล่อย ตัวได้ เช่นกัน ถ้าปรากฎแก่รัฐมนตรีว่าจําเลยไม่มีอันตรายต่อประชาชนอีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นไปตาม บทบัญญัติ มาตรา 42 แห่ง The Mental Health Act 1983 4) สิทธิในการมีทนายและผู้ช่วยเหลือในทางคดี ประเทศอังกฤษไม่ปรากฎบทบัญญัติ เกี่ยวกับสิทธิในการมีทนายความหรือ ผู้ช่วยเหลือทางคดีแก่จําเลยที่มีสภาพจิตไม่ปกติ (สิทธินนท์ กี่สุข พันธ์, 2559) 2.7.3 ประเทศญี่ปุ่น 2.7.3.1 มาตรการทางกฎหมายสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติทางจิตที่ยังไม่ได้กระทำความผิด ประเทศญี่ปุ่นได้ตราพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการควบคุมและดูแลบุคคลวิกลจริต ในปี ค.ศ 1900 (The Law of care and custody of the insane) และพระราชบัญญัติสถานบำบัด คนวิกลจริต ปี ค.ศ. 1919 (Insane Asylum Law ) ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยซึ่งมี อาการโรคจิตหรือวิกลจริต จนกระทั้งได้มีการตราพระราชบัญญัติสุขภาพจิตขึ้นไปปี ค.ศ. 1950 (Mental Hygine Law) ซึ่งห้ามมิให้กักขังผู้ป่วยโรคจิตไว้ที่บ้าน แต่ให้นำผู้ป่วยไปบำบัดรักษา ณ โรงพยาบาลโรคจิต โดยได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลโรคจิตในแต่ละจังหวัด อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง ต่อมาในปี 1988 โดยกฎหมายฉบับนี้มีชื่อว่า พระราชบัญญัติสุขภาพจิต ค.ศ 1988 1) หลักการเงื่อนไขสำคัญในการใช้พระราชบัญญัติสุขภาพจิต ค.ศ. 1988 คือ พระราชบัญญัติสุขภาพจิต ค.ศ . 1988 บัญญัติขึ้นเพื่อวางหลักเกณฑ์ในการ ปฏิบัติต่อผู้ป่วยทางจิตในการรักษาพยาบาล อีกทั้งป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ผู้ป่วยหรือผู้อื่น การควบคุมกักขังผู้ป่วยและการฟื้นฟูสมรรถภาพทางจิตให้ผู้ป่วยปรับตัวอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข 2) ความหมายของคำว่า “ความผิดปกติทางจิต” พระราชบัญญัติสุขภาพจิต ค.ศ. 1988 ฉบับนี้ได้ให้คำจำกัดความของบุคคลที่มี อาการโรคจิตหรือวิกลจริตซึ่งตามกฎหมายฉบับนี้ใช้คำว่า (mentally disordered person) หมายถึง บุคคลที่เป็นโรคจิต (Psychotic person) ปัญญาอ่อน (Mentally retard person) และบุคคลที่มี ความผิดปกติทางจิตแบบก้าวร้านรุนแรงหรือต่อต้านสังคม (Psychopatic person) 3) การสั่งบำบัดรักษาและการปล่อยตัว The Mental Health Act 1988 ได้กำหนดมาตรการรับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติ ทางจิตไว้ 4 รูปแบบด้วยกัน กล่าวคือ (3.1) การบังคับรักษาโดย Prefectural Governor (Involuntary admission by the Prefectural Governor) เมื่อ Prefectural Governor ได้รับแจ้งจากบุคคลดังต่อไปนี้ ก. เมื่อบุคคลใดก็ตามพบบุคคลที่มีความผิดปกติทางจิตหรือสงสัยว่า บุคคลนั้ นมีความผิ ดปกติทางจิ ตอาจร้ องขอไปยั ง Prefectural Governor เพื่ อสั่ งให้แพทย์

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3