2566-3-ปวริศา เอียดทิม-วิทยานิพนธ์

54 ภายหลังจากที่ได้มีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกแล้ว อัยการก็อาจระงับการบังคับคดีไว้แล้วส่งตัวผู้ ต้องโทษไปรับการรักษา ณ โรงพยาบาลได้จนกว่าจะหายจากโรค ประการที่สอง บุคคลที่ศาลพิพากษาว่าได้กระทำความผิด และผู้พิพากษาได้ พิพากษาให้ปล่อยหรือศาลพิพากษาโดยไม่ลงโทษจำคุก ด้วยเหตุผลของความวิกลจริต หรือความรู้สึก ผิดชอบน้อยลง ศาลชั้นต้น (District Court) จะมีบทบาทสำคัญในกระบวนพิจารณาคดีหากพนักงาน อัยการฟ้องคดีต่อศาลโดยศาลจะสั่งให้มีการตรวจประเมินทางจิตเวช (psychiatric evaluation) โดย ภายหลังจาก 3 เดือน จะมีการตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินผลการตรวจพบทางจิตเวช คณะกรรมการดังกล่าวจะประกอบด้วย กรรมการ 2 ประเภทกล่าวคือ ผู้พิพากษาและผู้เชี่ยวชาญด้าน จิตเวชศาสตร์ กรรมการทั้ง 2 ประเภท มีอำนาจในการตัดสินใจโดยเท่าเทียมกัน เมื่อได้รับผลการ ประเมินทางด้านจิตเวชแล้ว คณะกรรมการจะร่วมประชุมกันเพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นทางการแพทย์ และทางกฎหมาย ในขณะที่จะมีการตั้งทนายความเพื่อให้ความช่วยเหลือจำเลย โดยคณะกรรมการจะ สัมภาษณ์จำเลยและความเห็นจากผู้ เกี่ ยวข้อง ได้แก่ ทนายความของจำเลย พนักงานอัยการ สำนักงานสถานพินิจ และในที่สุดคณะกรรมการก็จะมีคำวินิจฉัยภายใต้ความเห็นร่วมกันของกรรมการ ทั้ง 2 ฝ่าย คำวินิจฉัยสามารถเป็นไปได้ 2 แนวทาง คือ 1) คำสั่งให้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลโรคจิต (inpatient treatment order) คำสั่งให้บำบัดรักษาตัวในโรงพยาบาลโรคจิตจะถูกดำเนินการภายใต้โรงพยาบาลที่ดำเนินการ โดยรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือบริษัทมหาชน (ซึ่งองค์กรที่ดำเนินการกิจกรรมสาธารณะ ประโยชน์ที่ไม่แสวงหากำไร) ทั้งนี้ บุคลากรและอุปกรณ์รักษาพยาบาลต้องมีมาตรการตามที่กำหนด โดยกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ (Ministry of Health and Welfare) หลังจากที่เข้ารับการ บำบัดรักษาในระยะเวลา 6 เดือน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลจะต้องเสนอรายงาน ต่อศาลชั้นต้นให้พิจารณาว่า สมควรจะบำบัดรักษาต่อไปหรือไม่ หากศาลเห็นว่า การบำบัดรักษา ภายในโรงพยาบาลในลักษณะคนไข้ภายในไม่จำเป็นอีกต่อไป ผู้ อำนวยการโรงพยาบาลหรือ สถานพยาบาลจะให้ผู้กระทำความผิดออกจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลโดยไม่ชักช้า ภายใต้ มาตรฐานของการบำบัดรักษาภายในโรงพยาบาลโรคจิต จะมีทีมสหวิชาชีพดำเนินการรักษาภายใต้ โปรแกรมของผู้ป่วยแต่ละคน ทั้งนี้ระยะเวลาในบำบัดรักษาในโรงพยาบาลโรคจิต ประมาน 18 เดือน 2) คำสั่ งให้บำบัดรักษาแต่ไม่ต้องอยู่ ในโรงพยาบาลโรคจิต ( outpatient treatment order) คำสั่งให้บำบัดรักษาในลักษณะคนไข้นอก หรือการกำกับดูแลสุขภาพจิต (mental health supervision) มีวัตถุประสงค์ที่จะบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่อง (Continuous Treatment )โดย คนไข้จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสถานคุมประพฤติ (probation office) โดยคนไข้จะต้องอยู่ใน สถานที่ ที่ กำหนดและมารายงานตัวต่อสถานคุมประพฤติภายในระยะเวลาที่ ก ำหนดโดยมีผู้ ประสานงานด้ านฟื้ นฟู ( Rehabilitation coordinators) ซึ่ งประสบการณ์ด้ านสวั สดิการและ สุขภาพจิต ที่ได้รับการแต่ตั้งจากสำนักงานคุมประพฤติ เป็นผู้ติดต่อประสานงานกับคนไข้นอกเหล่านี้ โดยมีระยะเวลาในการบักบัดรักษาประมาณ 3 ปี อย่างไรก็ตาม ศาลชั้นต้นมีอำนาจในการสั่งขยาย ระยะเวลาในการบำบัดรักษาได้อีกไม่เกิน 2 ปี หากการบำบัดรักษาไม่จำเป็นอีกแล้ว ผู้อำนวยการ