2566-3-ปวริศา เอียดทิม-วิทยานิพนธ์

55 สำนักคุมประพฤติก็จะทำรายงานเสนอต่อศาลชั้นต้น ถ้าสภาพของคนไข้มีอาการทรุดหนักลง ศาล ชั้นต้นจะมีคำสั่งให้บำบัดรักษาใหม่ 2.7.3.3 หลักเกณฑ์การบังคับใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัยมาใช้กับจำเลยที่มีความผิดปกติทางจิต ในช่วงหลังศตวรรษที่ 19 ญี่ปุ่นได้มีความกระตือรือร้นที่จะรับแนวความคิดและระบบ กฎหมายของตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเยอรมัน โดยมาตรา 39 ของประมวลกฎหมายอาญา ฉบับปัจจุบัน ซึ่งได้ตราขึ้นในปี 1907 ได้บัญญัติว่า ผู้กระทำความผิดที่วิกลจริต ( insane offenders) จะไม่ถูกลงโทษ แต่หากผู้กระทำครั้งนั้นจะมีความรับผิดชอบอยู่บ้าง ก็จะถูกฟ้องเพื่อลงโทษ อย่างไรก็ ดี บุคคลที่จะถือว่าอยู่ในฐานะของคนวิกลจริตตามกฎหมายอาญานั้น หมายถึง บุคคลที่มีความ บกพร่องทางจิตจนไม่อาจแยกแยะได้ว่าการกระทำของตนถูกหรือผิด และหมายความรวมถึงผู้ที่รู้ผิด ชอบชั่วดี (Discernment) แต่ไม่อาจปฏิบัติตามการรับรู้นั้นได้ สำหรับบุคคลที่ยังมีความรู้ผิดชอบอยู่ บ้าง หมายถึง ผู้ที่มีความสามารถที่จำกัดในการรู้ผิดชอบชั่วดี และการปฏิบัติตามความรู้สึกผิดชอบชั่ว ดีนั้น ในเวลานั้นแนวความคิดวิธีการเพื่อความปลอดภัยสำหรับบุคคลที่มีพฤติกรรมที่เป็นอันตร ายยัง ไม่ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมในยุโรป ด้วยเหตุนี้ประมวลกฎหมายอาญาประเทศญี่ปุ่นจึงไม่มีมาตรการ สำหรับดำเนินการแก่บุคคล ที่ได้ถูกตัดสินให้ปล่อยอันเนื่องมาจากวิกลจริต คงมีบัญญัติเฉพาะเรื่อง ความรับผิดของบุคคลวิกลจริตในประมวลกฎหมายอาญาฉบับปี 1907 มาตรา 39 บทบัญญัติแห่งกฎหมายในประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้กำหนดวิธีการเพื่อความปลอดภัยไว้ โดยตรงในประมวลกฎหมายอาญาหรือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ แต่จะกำหนดไว้ใน กฎหมายพิเศษแต่ละเรื่อง เช่นกฎหมายเกี่ยวกับการจราจร กฎหมายเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน กฎหมายเกี่ยวกับควบคุมดูแลบุคคลวิกลจริตที่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรง ฯลฯ ซึ่งจะใช้ในสถานการณ์ ที่ต่างกัน และพิจารณาที่พฤติกรรมของผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ของประเทศญี่ปุ่นมีมาตรการต่อผู้กระทำความผิดที่ไม่ใช่การนำตัวบุคคลที่ได้รับโทษจำคุกไว้ใน เรือนจำ มีอยู่หลายช่องทางที่อาจใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้กระทำความผิดได้ซึ่งได้แก่ 1) ในชั้นตำรวจ ได้แก่ การปรับและปล่อยตัวผู้กระทำความผิดไปในคดีจราจร 2) ในชั้นอัยการ ได้แก่ การปล่อยตัวผู้กระทำความผิดเนื่องจากการสั่งไม่ฟ้อง 3) ในชั้นศาล ได้แก่ กรณีการกระทำความผิดอาญาเล็กน้อย (Minor offence) ศาลจะ พิพากษาลงโทษปรับเพียงอย่างเดียวและปล่อยผู้กระทำผิดไป และ 4) ในชั้นราชทัณฑ์ ได้แก่ การพักการลงโทษ การให้เข้าไปใช้แรงงานหรือฝึกงานในทัณฑ สถาน บุคคลซึ่งถูกปล่อยตัว ภายใต้ขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาเหล่านี้ต้องถูกบังคับ ใช้วิธีการเพื่อความปลอดภัย เพื่อป้องกันมิให้ผู้ได้รับการปล่อยตัวในชั้นตำรวจและอัยการ ผู้ได้รับการ รอการลงโทษหรือพักกานลงโทษไม่ให้หวนไปกระทำความผิดอีก

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3