2566-3-ปวริศา เอียดทิม-วิทยานิพนธ์

69 บทที่ 4 ผลการวิจัย การศึกษาเรื่อง มาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องขังที่ป่วยทางจิตเวชระหว่าง การคุมขังในเรือนจำ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อศึกษาปัญหาการคัดกรองผู้ต้องขังที่ป่วย ทางจิตเวชให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิในระหว่างการคุมขังในเรือนจำ รวมถึงแนวคิด ทฤษฎี หลักการ การคุ้มครองสิทธิผู้ต้องขังที่ป่วยทางจิตเวชในระหว่างการคุมขังในเรือนจำ โดยศึกษากฎหมายของ ประเทศไทยและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมสำหรับผู้ต้องขังที่ป่วยทางจิตเวชใน ระหว่างการคุมขังในเรือนจำ เพื่อนำมาวิเคราะห์และหาแนวทางในประเด็นปัญหาการคุ้มครองสิทธิ ของผู้ต้องขังที่ป่วยทางจิตเวชในระหว่างการคุมขังในเรือนจำ มีรายละเอียดดังนี้ กรณีเกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องขังที่ป่วยทางจิตเวชระหว่าง การคุมขังในเรือนจำ ในปัจจุบันพบว่ามีปัญหาตั้งแต่กระบวนการก่อนการส่งตัวผู้ต้องขังซึ่งในขณะนั้น ถือเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีเลยก็ว่าได้ เนื่องจากในบางรายตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยเองมีอาการ ป่วยทางจิตเวชมาตั้งแต่ขั้นตอนของการสอบสวนหรือพิจารณาคดีแล้ว หากแต่ไม่ยอมรับถึงอาการป่วย ที่ตนเองเป็น หรือในทางปฏิบัติเองประเทศไทยยังไม่มีขั้นตอนกระบวนการทดสอบสภาวะทาง สุขภาพจิตของคู่คดีไม่ว่าจะฝ่ายไหนเลยก็ตาม จึงอาจทำให้ผลการพิจารณาตัดสินในชั้นศาลอ าจะไม่ ถูกต้องเหมาะสมหากผู้ต้องหาหรือจำเลยมีสภาวะทางสุขภาพจิตที่เป็นลบเนื่องจากการสำคัญใน ข้อเท็จจริงของกระบวนการพิจารณาคดี ต่อมาเมื่อผู้ต้องหาหรือจำเลยรายดังกล่าวเข้ามาอยู่ ใน กระบวนการคุมขังของทางเรือนจำ/ทัณฑสถานแล้วนั้น ในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ก็ ไม่ได้มีบทบัญญัติไว้สำหรับใช้บังคับโดยตรงว่าได้มีการตรวจสภาวะทางสุขภาพจิตของผู้ต้องขังเข้าใหม่ ไว้อย่างไรบ้าง อีกทั้งเมื่อผู้ต้องขังรายดังกล่าวถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ ก็เป็นการยากที่จะติดต่อเพื่อ รักษาตัวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง แม้ในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 จะระบุให้มีจิตแพทย์ เข้าไปตรวจหรือให้คำปรึกษาเป็นประจำ แต่หากดูตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเรือนจำ/ทัณฑสถานใน ประเทศไทยในปัจจุบันนั้น พบว่ามีจำนวนผู้ต้องขังที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถานแต่ละแห่ง เป็นจำนวนมาก ไม่สัมพันธ์กันกับจำนวนของจิตแพทย์ที่เข้าไปตรวจ ประกอบกับเวลาที่ใช้ในแต่ละ ครั้งก็ไม่เพียงพอที่จะทดสอบสภาวะทางสุขภาพจิตของผู้ต้องขังทุกคนได้ ตลอดจนเมื่อผู้ต้องขังพ้น โทษจำคุกนั้น หากดูในพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 จะเห็นว่าไม่ได้มีการวางหลักเกี่ยวกับ ขั้นตอนการตรวจสภาวะทางสุขภาพจิตของผู้ต้องขังก่อนปล่อยไว้แต่อย่างใด ทั้งที่ในความเป็นจริง ผู้ต้องขังแต่ละรายที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถานนั้น ย่อมต้องมีทั้งความเครียดและความ วิตกกังวลติดตัวออกไปทุกคนอยู่แล้ว และจากการที่ได้ศึกษาปัญหาดังกล่าวในกฎหมายต่างประเทศใน ขณะนี้พบเพียงแค่ว่ามีผู้ที่สนใจศึกษาเกี่ยวปัญหาของผู้ต้องขังที่ป่วยจิตเวชในเรือนจำ/ทัณฑสาถานนั้น ได้มีการบอกกล่าวถึงข้อเสนอที่อยากให้ทางห่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศนั้นๆ เข้ามาดูแลและ จัดการแก้ไขช่องโหว่เพียงเท่านั้น ปัจจุบันในทางต่างประเทศเองก็ยังไม่มีแนวทางด้านกฎหมายที่ นำมาใช้บังคับเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องขังซึ่งเป็นผู้ป่วยจิตเวชที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำ/

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3