2566-3-ปวริศา เอียดทิม-วิทยานิพนธ์
77 ในส่วนของการติดตามการรักษาต่อเนื่องในเรือนจำ จะเน้นการประเมินอาการและ ติดตามการรักษาต่อเนื่องในเรือนจำ การรักษาด้วยยา การประเมินผลข้างเคียงจากยา รวมทั้งการคัด กรองผู้ต้องขังที่อาจมีปัญหาสุขภาพจิตระหว่างอยู่ในเรือนจำ การเฝ้าระวังในกรณีผู้ต้องขังป่วยจิตเวช มีอาการหรือสัญญาณเตือนอาการทางจิตเวชโดยเฉพาะระยะเวลาใกล้ศาลจะมีคำสั่งพิพากษา หลังฟัง คำ พิพากษา หลังญาติเยี่ยม หรือญาติไม่มาเยี่ยมเป็นเวลานาน เป็นต้น การป้องกันปัญหาทางสุขภาพจิต การค้นหา การคัดกรอง ส่งต่อ และดำเนินการรักษา ตามแผน รวมถึ งการฟื้ นฟูฯ เรื อนจำจะมีการนำหลั กการบำบัดรั กษาทางสุ ขภาพจิ ต ตาม พระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551 มาตรา 25 เมื่อผู้รับผิดชอบดูแลสถานที่คุมขัง พบบุคคลที่อยู่ ในความดูแลรับผิดชอบตามอำนาจหน้าที่ มีพฤติกรรมอันเชื่อว่าบุคคลนั้นมีลักษณะตาม มาตรา 22 (บุคคลที่มีความผิดปกติทางจิต มีภาวะอันตรายมีความจำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษา) ให้ ดำเนินการส่งตัวบุคคลนั้นไปยังโรงพยาบาลสงขลา และโรงพยาบาลจิตเวชสงขลานครินทร์ เพื่อรับ การตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการเบื้องต้น เน้นการฟื้นฟูสมรรถภาพ เมื่อผู้ต้องขังป่วยจิตเวช ซึ่ง ได้รับการบำบัดรักษาในระหว่างถูกคุมขัง ถึงกำหนดปล่อยตัว ให้เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ต้องขังป่วยจิตเวช มี หน้าที่ดำเนินการตามมาตรา 40 และแจ้งให้ผู้รับดูแลผู้ป่วยรับตัวผู้ป่วยไปดูแล ส่วนในกรณีที่ไม่มีผู้รับ ดูแลให้แจ้งหน่วยงานด้านสงเคราะห์และสวัสดิการทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง และแจ้งให้ พนักงานเจ้าหน้าที่ติดตามดูแล ประสานงานและช่วยเหลือในการดำเนินการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย และหน่วยงานที่ดูแล แล้วรายงานให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลาทราบตามแนวทางการดูแล ผู้ต้องขังจิตเวชในเรือนจำ 4.3 การคัดกรองผู้ต้องขังที่ป่วยทางจิตเวชในเรือนจำก่อนพ้นโทษจำคุก ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนการปล่อยตัวผู้ต้องขังออกจากเรือนจำ/ทัณฑสถาน ปัจจุบัน ทางเรือนจำ/ทัณฑสถานได้มีการจัดการอบรมต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ต้องขังก่อนได้รับการ ปล่อยตัว เช่น โครงการโคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ หลักสูตร 14 วัน สำหรับกลุ่มผู้ต้องขังที่เตรียมความพร้อมสำหรับการปล่อยในรูปแบบของการพักการลงโทษ และการ ปล่อยในรูปแบบของการได้รับพระราชทานอภัยโทษ โครงการอบรมตามประเภทความผิดของแต่ละ คดี เช่น คดีข่มขืน คดียาเสพติด คดีความผิดต่อชีวิต ซึ่งถือเป็นการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมก่ อน ได้รับการปล่อยตัวสำหรับผู้ต้องขังทุกรายที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน จากตัวอย่างที่ กล่าวมาข้างต้น โครงการอบรมทั้งสองรูปแบบที่ยกตัวอย่างมานั้นถือได้ว่าเป็นการฝึกอบรมเพื่อพัฒนา พฤตินิสัย ให้ผู้ ต้องขังสามารถออกไปใช้ชีวิตในสังคมภายนอกเรือนจำ/ทัณฑสถานได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากที่สุด และไม่หวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีก แต่หากจะกล่าวถึงการทดสอบ สภาวะของสุขภาพจิตนั้น ในปัจจุบันยังไม่มีแหล่งข้อมูลที่ระบุไว้ชัดเจนว่าได้มีการเตรียมความพร้อม ก่อนการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ป่วยจิตเวชไว้ว่าได้รับการปฏิบัติอย่างไร ได้รับการตรวจสภ าวะสุขจิต หรือไม่ หรือทางเรือนจำ/ทัณฑสถานได้มีการทดสอบสภาวะสุขภาพจิตของผู้ต้องขังก่อนได้รับการ ปล่อยตัวหรือไม่
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3