2566-3-ปวริศา เอียดทิม-วิทยานิพนธ์

78 เมื่อมาดูพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 นั้น จะเห็นได้ว่ายังไม่มีการวางหลักกฎหมายไว้ สำหรับการเตรียมความพร้อมก่อนการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ป่วยจิตเวชไว้เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติอย่าง ชัดเจนสำหรับเจ้าหน้าที่ในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในส่วนของการปล่อยตัวผู้ต้องขัง โดยระบุไว้เพียงแค่ให้เรียกคืนทรัพย์สินที่เป็นของทางราชการคืนจากผู้ต้องขัง ให้ผู้ต้องขังจ่ายเครื่อง แต่งกายให้ตามที่กรมราชทัณฑ์กำหนด ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวทำหลักฐานการปล่อยตัวของผู้ต้องขัง คืน ทรัพย์สินของผู้ต้องขังให้แก่ผู้ต้องขัง รวมทั้งเงินรางวัลและเงินทำขวัญ กรณีผู้ต้องขังทำงานขณะที่อยู่ ในระหว่างการควบคุมตัวของเรือนจำ/ทัณฑสถาน และออกใบสำคัญการปล่อยนักโทษเด็ดขาดที่พ้น โทษให้แก่ผู้ต้องขัง เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2566 กรมราชทัณฑ์ได้มีการจัดการประชุมผู้บริหารครั้งที่ 2/2566 ขึ้นและได้มีการกำหนดเรื่องการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังป่วยจิตเวช ตั้งแต่กระบวนการแรกรับจน พ้นโทษ ไว้ในระเบียบวาระที่ 3 โดยมีเนื้อหาสาระ ดังนี้ ในส่วนของการดำเนินงานด้านสุขภาพจิตและ จิตเวชผู้ต้องขังก่อนพ้นโทษ สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี ดังนี้ ผู้ต้องขังจิตเวชที่มีประวัติการรักษา อาการป่วยทางจิตเวช และ ผู้ต้องขังจิตเวชที่ไม่มีประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตเวช กรณีผู้ต้องขังจิตเวชที่มีประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตเวช ให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่การเริ่ม สำรวจรายชื่อผู้ต้องขังจิตเวชกับฝ่านทัณฑปฏิบัติที่จะได้รับการปล่อยตัวภายใน 1 ปีและทบทวน รายชื่อทุก 3 – 6 เดือน โดยให้ทำการแสดงสัญลักษณ์ผู้ต้องขังจิตเวชไว้ในเล่มทะเบียนประวัติ ผู้ต้องขัง (รท.101) เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกต และความสะดวกในการประสานงานกับส่วนควบคุม ดูแล และปล่อยตัวผู้ต้องขังจิตเวช รวมถึงการส่งต่อข้อมูลเพื่อสรุปข้อมูล เตรียมหนังสือส่งรักษาต่อ ตลอดจนการเตรียมยาทางจิตเวชให้กับผู้ต้องขังจิตเวชเมื่อปล่อยตัว จัดให้มีหนังสือถึงสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่แจ้งรายชื่อผู้ต้องขังป่วยจิตเวชที่จะได้รับการปล่อย ตัวภายใน 1 ปี เพื่อวางแผนในการเตรียมความพร้อมแก่ผู้ต้องขัง ญาติ และชุมชน กรณีที่ผู้ต้องขังจิต เวชไม่มีที่พักอาศัยหรือผู้อุปการะหลังการพ้นโทษ ให้เรือนจำประสานไปยังศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง หรือสถานสงเคราะห์อื่นๆ ในพื้นที่ล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อเตรียมการรองรับผู้ต้องขังป่วยจิต เวชภายหลังพ้นโทษจะต้องจัดให้มีการประเมินอาการผู้ต้องขังจิตเวชก่อนปล่อยตัวทุกราย ซึ่งอาจ แบ่งกลุ่มผู้ต้องขังจิตเวชออกได้ ดังนี้ กรณีผู้ต้องขังมีภาวะอันตราย หากพบว่า ผู้ต้องขังจิตเวชก่อนปล่อยตัวมีภาวะอันตรายและ จำเป็นต้องเข้ารับการบำบัดรักษา เช่น มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง มีภาวะอันตราย มีแนวโน้มอันตราย เนื่องจากไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา มีพฤติกรรมที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อชี วิต ร่างกาย และทรัพย์สินทั้งต่อตนเองและผู้อื่น หรือไม่สามารถปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา เพราะจะ ทำให้โรคหรืออาการผิดปกติทวีความรุนแรง ให้เรือนจำหรือทัณฑสถานพิจารณาส่งต่อเพื่อพบ จิตแพทย์ก่อนได้รับการปล่อยตัว หรือส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจิตเวช หรือโรงพยาบ าลศูนย์ หรือโรงพยาบาลทั่วไป ที่อยู่ในพื้นที่หรือใกล้เคียง ตามความเหมาะสม โดยทำหนังสือส่งตัวผู้ต้องขัง ตามแบบหนังสือส่งตัวรักษาตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551 มาตรา 22 และมาตรา 251 และให้แนบแบบประเมินสภาพผู้ต้องขังจิตเวชในเรือนจำหรือทัณฑสถาน พร้อมหมายปล่อยตัวไปยัง โรงพยาบาลและประสานแจ้งให้ญาติของผู้ขังทราบ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3