2566-3-ปวริศา เอียดทิม-วิทยานิพนธ์

86 ผู้ต้องขังป่วยจิตเวชภายหลังพ้นโทษจะต้องจัดให้มีการประเมินอาการผู้ต้องขังจิตเวชก่อนปล่อยตัวทุก ราย เหตุผลที่วางหลักข้อ 10 ไว้ดังข้างต้น เนื่องจาก การสำรวจรายชื่อผู้ต้องขังป่วยจิตเวชก่อน ได้รับการปล่อยตัวภายใน 1 ปี และทบทวนรายชื่อดังกล่าวอยู่เสมอนั้นเพื่อให้เป็นการง่ายต่อการ เตรียมความพร้อมและการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องรับหน้าที่ในการดูแล ผู้ต้องขังจิตเวชภายหลังได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว ข้อ 11 กรณีผู้ต้องขังจิตเวชก่อนปล่อยตัวมีภาวะอันตรายและจำเป็นต้องเข้ารับการ บำบัดรักษา เช่น มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง มีภาวะอันตราย มีแนวโน้มอันตรายเนื่องจากไม่ให้ความ ร่วมมือในการรักษา มีพฤติกรรมที่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินทั้ง ต่อตนเองและผู้อื่น หรือไม่สามารถปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ให้ เจ้าหน้าที่ทีมสุขภาพจิตทำ หนังสือส่งตัวผู้ต้องขังตามแบบหนังสือส่งตัวรักษาตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551 มาตรา 22 และมาตรา 251 เพื่อให้ผู้ต้องขังนั้นเข้าพบจิตแพทย์ก่อนได้รับการปล่อยตัว หรือส่งตัวไปรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลจิตเวช หรือโรงพยาบาลศูนย์ หรือโรงพยาบาลทั่วไป ที่อยู่ในพื้นที่หรือใกล้เคียงตาม ความเหมาะสม และให้แนบแบบประเมินสภาพผู้ต้องขังจิตเวชในเรือนจำหรือทัณฑสถาน พร้อมหมาย ปล่อยตัวไปยังโรงพยาบาลและประสานแจ้งให้ญาติของผู้ขังทราบ เหตุผลที่วางหลักข้อ 11 ไว้ดังข้างต้น เนื่องจาก เพื่อใช้สำหรับเป็นข้อบังคับขั้นพื้นฐาน สำหรับกรณีที่ผู้ต้องขังป่วยจิตเวชที่ใกล้จะได้รับการปล่อยตัวแล้วมีสภาวะทางสุขภาพจิตที่รุนแรงไม่ คงที่ ทำให้จำเป็นต้องควบคุมตัวไว้ต่อเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ข้อ 12 ให้เจ้าหน้าที่ทีมสุขภาพจิตดำเนินการจัดเตรียมข้อมูลประวัติการรักษาของผู้ต้อง ป่วยจิตเวชที่จะได้รับการปล่อยตัวในขณะที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำหรือทัณฑสถาน และติดต่อญาติ ผู้ดูแลผู้ต้องขังหลังปล่อยตัว เพื่อแจ้งข้อมูลเรื่องการรักษารวมถึงสิทธิการรักษาและการส่งต่อ เพื่อให้ ผู้ต้องขังได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง และมอบหนังสือส่งตัวและยาทางจิตเวชให้ผู้ต้องขังจิตเวช ให้มีพอรับประทานอย่างน้อย 4 สัปดาห์ภายหลังจากพ้นโทษไปแล้ว เหตุผลที่วางหลักข้อ 12 ไว้ดังข้างต้น เนื่องจาก เพื่อเป็นการแจ้งข้อมูลของผู้ต้องขังป่วย จิตเวชในขณะที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ให้แก่ผู้ที่จะดูแลผู้ต้องขังต่อไปเมื่อ ผู้ต้องขังได้รับการพ้นโทษได้ทราบถึงอาการป่วยและสิทธิต่างๆ ในการเข้ารับการรักษา รวมไปถึง เตรียมยาเพื่อให้ผู้ต้องขังจิตเวชยังคงได้รับประทานอย่างต่อเนื่องแม่จะพ้นโทษไปแล้ว ข้ อ 13 การปล่ อยตั วผู้ ต้ องขั งที่ ไม่ มี ประวั ติ การรั กษาอาการป่ วยทางจิ ตเวช ให้เจ้าหน้าที่ทีมสุขภาพจิตดำเนินการตรวจคัดกรองสุขภาพจิตผู้ต้องขังก่อนได้รับการปล่อยตัวทุกราย