2566-3-สุพิชญา มูสิกะศิริ-วิทยานิพนธ์

180 ประสบการณ์ ในด้านบัญชี การบริหาร หรือกฎหมาย เพื่อมีมติเห็นชอบจากพระภิกษุภายในวัด ไวยวัจกร และบุคคลในท้องถิ่นนั้นๆพิจารณาร่วมกันคัดเลือกเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการวัด เมื่อมี มติเห็นชอบบุคคลใดแล้ว ให้เจ้าอาวาสมีอำนาจแต่งตั้งบุคคลนั้นเป็นกรรมการวัด โดยนำไปขึ้น ทะเบียนขออนุมัติจากสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัด ข้อ 11 ในแต่ละวัด ให้มีคณะกรรมการจัดการทรัพย์สินของวัด โดยมีคณะกรรมการ ประกอบด้วย เจ้าอาวาสหรือรักษาการเจ้าอาวาสเป็นประธานกรรมการ (1) รองเจ้าอาวาสหรือผู้ช่วยเจ้าอาวาส จำนวนหนึ่งรูป (2) พระภิกษุที่สังกัดอยู่ในวัดเลือกกันเอง จำนวนสองรูป (3) ไวยาวัจกรจำนวนหนึ่งคน (4) ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีภูมิลำเนาอยู่ในท้องถิ่นนั้น จำนวนสามคน ข้อ 12 คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) บริหารจัดการทรัพย์สินของวัด ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นประโยชน์แก่ การดำเนินกิจการพระพุทธศาสนา (2) วางระเบียบเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินของวัดซึ่งต้องสอดคล้องกับระเบียบ (3) ดำเนินการอื่นใดเพื่อประโยชน์ในการจัดการทรัพย์สินของวัดหรือตามที่กฎหมายอื่น กำหนดการทำนิติกรรมสัญญาเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สินของวัดกับบุคคลภายนอกให้ประธานหรือผู้ ที่ได้รับมอบหมายโดยมติของคณะกรรมการเป็นผู้แทนของวัด หมวดที่ 4 การบริหารจัดการ การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและทรัพย์สินของวัด ข้อ 13 บรรดาแบบพิมพ์ เอกสาร ทะเบียนควบคุม รายงาน บัญชี และแบบพิมพ์อื่นๆ ที่ใช้ใน การเบิกเงินจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและ ทรัพย์สิน ตลอดจนวิธีใช้ให้เป็นไปตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนด ข้อ 14 ในกรณีที่วัดมีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหรือไม่สามารถปฏิบัติ ตามข้อกำหนดใน ระเบียบนี้ ให้เจ้าอาวาสของวัดนั้น ขอหารือเพื่อให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติวินิจฉัย หรือขอ ทำความตกลงกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แล้วแต่กรณี หรือให้สำนักงานพระพุทธศาสนา แห่งชาติกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีปฏิบัติในการเบิกเงินจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงินและทรัพย์สิน เพื่อเป็นแนวทางให้วัดต่างๆถือปฏิบัติ ข้อ 15 ให้เจ้าอาวาสผู้เบิกหรือผู้ที่เจ้าอาวาสผู้เบิกมอบหมายเป็นผู้มีสิทธิในการปฏิบัติงานใน ระบบ ตามช่องทางที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนด