การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

93 กรณีอสังหาริมทรัพย์อื่นที่มิใช่ต้นไม้ยืนต้น ให้พิจารณากำหนดจากค่าแรงงานตามราคาที่เป็น ปัจจุบัน 5. ค่าปลูกสร้างโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างใหม่ ให้พิจารณากำหนดราคาจากค่าวัสดุก่อสร้างที่ต้อง จัดหาทดแทนอันเนื่องมาจากความเสียหายที่เกิดจากการรื้อถอน ค่าแรง งาน ค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินงานก่อสร้าง และค่าออกแบบและควบคุมงานตามราคาที่เป็นปัจจุบัน สำหรับค่าธรรมเนียมขอ อนุญาตรื้อถอนและปลูกสร้าง ค่าป้องกันอุบัติภัย และค่าใช้จ่ายอื่นให้จ่ายได้ไม่เกินจำนวนที่จ่ายจริง 6. ค่าเสียสิทธิจากการใช้อสังหาริมทรัพย์ ให้พิจารณากำหนดค่าเสียสิทธิในการใช้ทาง วางท่อน้ำ ท่อระบายน้ำ สายไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นซึ่งคล้ายกันผ่านที่ดิน จากจำนวนเงินที่บุคคลผู้เสียสิทธิได้จ่ายจริง ให้แก่เจ้าของที่ดิน หรือจากจำนวนเงินที่บุคคลผู้เสียสิทธิพิสูจน์ได้ว่าตนจำเป็นต้องจ่ายเพื่อการ ก่อให้เกิดสิทธิอย่างเดียวกันขึ้นใหม่ สุดแต่จำนวนใดจะมากกว่า 7. ค่าเสียหายอื่นอันเกิดจากการที่เจ้าของต้องออกจากที่ดิน ให้พิจารณากำหนดตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (1) ค่าเสียหายระหว่างการจัดหาที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบกิจการใหม่ ให้จ่ายอัตราร้อยละ สองจุดห้าของค่าโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง แต่ต้องไม่น้อยกว่าสองหมื่นห้าพันบาท (2) ค่าเสียหายทางจิตใจอันเนื่องจากต้องย้ายออกจากบ้านอยู่อาศัย ให้จ่ายเป็นเงินเหมาจ่าย จำนวนห้าหมื่นบาท (3) ค่าเสียหายจากการขาดรายได้ในการประกอบการค้าขายหรือการงานอันชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการให้บุคคลอื่นเช่าเพื่ออยู่อาศัยหรือทำการค้าทั้งหมดหรือบางส่วน ให้จ่ายตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ ก) กรณีเป็นบุคคลธรรมดา ให้พิจารณากำหนดจากเงินได้สุทธิที่คำนวณได้เป็นรายเดือนจำนวน หกเดือน ข) กรณีนิติบุคคล ให้พิจารณากำหนดจากกำไรสุทธิที่คำนวณได้เป็นรายเดือนจำนวนหกเดือน ค) กรณีการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือไม่ว่าจะมีการให้เช่าช่วงต่อไป หรือไม่ ให้จ่ายจำนวนเท่ากับค่าเช่าหกเดือน ง) กรณีไม่อาจคำนวณเงินค่าเสียหายตาม (ก) (ข) หรือ (ค) ได้ ให้จ่ายเป็นเงินเหมาจ่ายจำนวน สองหมื่นบาท (4) ค่าเสียหายอันเกิดจากการที่ต้องขนย้ายสัมภาระ ให้จ่ายตามราคาที่ตกลงขนย้ายกันตามปกติ ในท้องตลาด (5) ค่าเสียหายจากการขาดรายได้ในการขายผลผลิต ให้จ่ายในอัตราร้อยละยี่สิบของค่าต้นไม้ยืนต้น (6) ค่าเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ให้จ่ายเป็นเงินเหมาจ่าย จำนวนห้าพันบาทต่อราย