การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

16 3) กฎหมายจะต้องมีผลใช้บังคับไปในอนาคต ไม่มีผลใช้บังคับย้อนหลังไปในอดีต 4) กฎหมายจะต้องมีข้อความที่ชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เกิดการใช้บังคับที่ไม่เป็นธรรม 5) กฎหมายจะต้องไม่มีข้อความที่ขัดหรือแย้งกันเอง 6) กฎหมายจะต้องไม่เรียกร้องให้บุคคลปฏิบัติในสิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้ 7) กฎหมายต้องมีความมั่นคงตามสมควร แต่ก็เปิดโอกาสให้แก้ไขให้สอดคล้องกับสภาพของ สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได้ 8) กฎหมายที่ได้รับการประกาศใช้แล้วจะต้องได้รับการบังคับให้สอดคล้องต้องกันกล่าวคือต้อง บังคับการให้เป็นไปตามเนื้อหาของกฎหมายที่ได้ประกาศใช้แล้วนั้น โดยอาจจำแนกสาระสำคัญของหลักนิติธรรมอีกแบบได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. สาระสำคัญของหลักนิติธรรมโดยเคร่งครัด ได้แก่ 1) หลักความเป็นอิสระและความเป็นกลางของผู้พิพากษาและตุลาการ หมายความว่าผู้พิพากษา และตุลาการต้องมีความเป็นอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดีภายใต้หลักกฎหมายความเป็นอิสระ เป็นหลักประกันขั้นพื้นฐานเพื่อให้ผู้พิพากษาและตุลาการสามารถดำรงตนด้วยความเป็นกลางในการ ดำเนินกระบวนพิจารณาและวินิจฉัยอรรถคดีโดยปราศจากอคติไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใด โดยเที่ยง ธรรมตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ซึ่งอาจพิจารณาได้ว่ามีอยู่ 2 รูปแบบ กล่าวคือ (1.1) ความเป็นอิสระและความเป็นกลางจากภายนอก คือ ผู้พิพากษาและตุลาการจะต้องไม่อยู่ ภายใต้อาณัติการสั่งการและแทรกแซงได้จากผู้อื่น (1.2) ความเป็นอิสระและความเป็นกลางจากภายใน คือ ผู้พิพากษาและตุลาการต้องพิจารณา พิพากษาคดีและตัดสินคดีโดยปราศจากอคติทั้งปวง ดังนั้น หากกฎหมายใดที่ลิดรอนหรือทำให้ผู้พิพากษาและตุลาการไม่มีความเป็นอิสระในการ ปฏิบัติหน้าที่ หรือปรากฏชัดแจ้งว่าอยู่ภายใต้อคติในการปฏิบัติหน้าที่ กฎหมาย คำพิพากษา คำสั่ง หรือคำวินิจฉัยดังกล่าวย่อมไม่มีผลใช้บังคับเนื่องจากขัดต่อหลักนิติธรรม 2) กฎหมายต้องใช้บังคับเป็นการทั่วไป หมายถึงกฎหมายต้องมุ่งหมายให้ใช้บังคับโดยเสมอภาค กัน ไม่สามารถใช้บังคับกับเฉพาะคนบางคน หรือบางกรณีโดยเฉพาะเจาะจงได้ เพราะกฎหมาย จะต้องเป็นการวางกฎเกณฑ์กติกาสำหรับสังคมโดยทั่วไป จึงจำเป็นต้องให้กฎหมายใช้บังคับเป็นการ ทั่วไป 3) กฎหมายต้องมีการประกาศใช้ให้ประชาชนทราบ หมายความว่ากฎหมายไม่ว่าจะเป็น กฎหมายลำดับชั้นใดจะต้องมีการประกาศใช้เป็นการทั่วไป เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบก่อนที่จะมีผล ใช้บังคับ 4) กฎหมายต้องไม่มีผลย้อนหลังในทางที่เป็นโทษ หมายความว่าหากในขณะกระทำการใด ๆ ไม่ มีกฎหมายบัญญัติให้การกระทำนั้นเป็นความผิด กฎหมายที่บัญญัติในภายหลังจะกำหนดให้การ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3