การศึกษาอิสระ - วิทยานิพนธ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

87 ฐานะเป็นกรรมการมีอำนาจหน้าที่จัดซื้อและกำหนดราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการชลประทาน ที่มี ความชำนาญในการกำหนดราคาเป็นระยะเวลามาแล้วอย่างน้อยกว่า 3 ปี 2.กลุ่มผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม ได้แก่ ปลัดอำเภอผู้ประสานงานประจำตำบล กำนันหรือ ผู้ใหญ่บ้านในเขตพื้นที่โครงการก่อสร้างฯ นักวิชาการที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสาขา นายช่าง ชลประทาน กรมชลประทาน รวมจำนวน 4 คน ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ปฏิบัติงานในฐานะเป็น อนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินที่อยู่ในเขตการก่อสร้างโครงการฯ มาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี 3.กลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ได้แก่เจ้าของที่ดิน ผู้ที่ขายที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ในกิจการของ กรมชลประทาน รวมจำนวน 3 คน โดยคำนึงถึงคุณสมบัติ เจ้าของที่ดิน ผู้ขายที่ดินหรือ อสังหาริมทรัพย์ ให้กับกรมชลประทานมาแล้ว เกณฑ์คัดออกสำหรับอาสาสมัครที่ปฏิเสธการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการวิจัย หรือสมัครใจแต่ ต่อมาตัดสินใจถอนตัวในขณะอยู่ในโครงการ รวมถึงคัดออกผู้ให้ข้อมูลที่มีประสบการณ์การทำง านไม่ ถึง 2 ปี นอกจากนี้จุดมุ่งหมายของการวิจัยนี้มุ่งการตีความเอกสารกฎหมายเป็นหลัก ส่วนผู้ให้ข้อมูล สัมภาษณ์เป็นลำดับรอง ข้อมูลที่ได้มาจะเก็บไว้เป็นความลับไม่เปิดเผยตัวตน โดยผู้วิจัยจะนำความ คิดเห็นของผู้ให้ข้อมูลมาถอดรหัส จำแนกและสังเคราะห์ โดยนำมาประกอบกับเอกสารวิชาการและ กฎหมาย เพื่อตอบโจทย์ตามวัตถุประสงค์อันจะนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายต่อไป ประเด็นสัมภาษณ์ ผู้วิจัยได้สร้างแบบสัมภาษณ์โดยศึกษาแนวคิด ทฤษฎี งานวิจัยและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อ นำมากำหนดเป็นกรอบคำถามที่แสดงให้เห็นถึงความคิด มีลักษณะเป็นแบบโครงสร้างจะนำไปใช้ สัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลเป็นหลักประกอบด้วย 1) ข้อมูลทั่วไปของผู้ให้สัมภาษณ์ 2) ประเด็นสัมภาษณ์ 3) ปัญหาอื่นและข้อเสนอแนะ ทั้ง 3 กลุ่มใช้คำถามชุดเดียวกัน มีรายละเอียด ดังนี้ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ให้สัมภาษณ์ - วัน เวลา และสถานที่สัมภาษณ์ - ตำแหน่งหน้าที่การงาน หน่วยงานภาครัฐ ผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม และผู้มีส่วนได้เสีย (เจ้าของ ที่ดิน) ส่วนที่ 2 ประเด็นสัมภาษณ์ 1) ท่านคิดว่าการจัดทำบริการสาธารณะของกรมชลประทานนั้นประชาชนจะได้รับประโยชน์ อย่างแท้จริงหรือไม่ อย่างไร 2) ท่านคิดว่าการจัดทำบริการสาธารณะของกรมชลประทานนั้นได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ ประชาชนหรือไม่

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3