หนังสือ คำอธิบายกฎหมาย สำหรับพยาบาล

หนังสือกฎหมายสำหรับพยาบาล 155 2.4) ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการจริยธรรมจากสมาชิกสามัญประกอบด้วย ประธานคนหนึ่ง และอนุกรรมการ มีจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่าสามคนมีหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริงใน เรื่องที่ได้รับ แล้วทำรายงานพร้อมทั้งความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา 2.5) เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานและความเห็นของคณะอนุกรรมการจริยธรรมแล้ว ให้ คณะกรรมการพิจารณารายงานและความเห็นดังกล่าว แล้วมีมติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ (1) ให้คณะอนุกรรมการจริ ยธรรมแสวงหาข้อเท็จจริ งเพิ่ มเติมเพื่ อเสนอให้ คณะกรรมการพิจารณา (2) ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทำการสอบสวน ในกรณีที่เห็นว่าข้อกล่าวหาหรือ ข้อกล่าวโทษนั้นมีมูล (3) ให้ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ ในกรณีที่เห็นว่าข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ นั้นไม่มีมูล 2.6) ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนจากสมาชิกสามัญ ประกอบด้วย ประธานคนหนึ่ง และอนุกรรมการ มีจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่าสามคนมีหน้าที่สอบสวนสรุปผลการ สอบสวนและเสนอสำนวนการสอบสวนพร้อมทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด 2.7) ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะอนุกรรมการจริยธรรมและของคณะอนุกรรมการสอบสวน ให้อนุกรรมการจริยธรรมและอนุกรรมการสอบสวนเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มี อำนาจเรียกบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำและมีหนังสือแจ้งให้บุคคลใด ๆ ส่งเอกสารหรือวัตถุเพื่อประโยชน์ แก่การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการดังกล่าว หากฝ่าฝืนไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุ เพื่อประโยชน์แก่การดำเนินงาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.8) ให้ประธานอนุกรรมการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษพร้อมทั้งส่งสำเนา เรื่องที่กล่าวหาหรือกล่าวโทษ ให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษไม่น้อยกว่า 15 วัน ก่อนวันเริ่มทำ การสอบสวน ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษมีสิทธิทำคำชี้แจงหรือนำพยานหลักฐานใด ๆ มาให้ คณะอนุกรรมการสอบสวน คำชี้แจงหรือพยานหลักฐานนั้นให้ยื่นต่อประธานอนุกรรมการสอบสวน ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากประธานอนุกรรมการสอบสวน หรือภายในกำหนดเวลาที่ คณะอนุกรรมการสอบสวนจะขยายให้ 2.9) เมื่ อคณะอนุกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จสิ้ นแล้วให้เสนอสำนวนการ สอบสวนพร้อมทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการโดยไม่ชักช้าเพื่อวินิจฉัยชี้ขาด 2.10) เมื่อคณะกรรมการได้รับสำนวนการสอบสวนและความเห็นของคณะอนุกรรมการ สอบสวนแล้ว ให้คณะกรรมการพิจารณาสำนวนการสอบสวนและความเห็นดังกล่าว คณะกรรมการ อาจให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมก่อนวินิจฉัยชี้ขาดก็ได้ คณะกรรมการมี อำนาจวินิจฉัยชี้ขาด โดยให้ทำเป็นคำสั่งสภาการพยาบาลและให้ถือเป็นที่สุด ดังต่อไปนี้ ยกข้อกล่าวหา

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3