หนังสือ คำอธิบายกฎหมาย สำหรับพยาบาล

หนังสือกฎหมายสำหรับพยาบาล 19 มาตรา 150 มาตรา 154 มาตรา 157 มาตรา 200 มาตรา 202 มาตรา 216 มาตรา 227 มาตรา 367 มาตรา 368 มาตรา 374 มาตรา 383 เป็นต้น ความแตกต่างระหว่างการกระทำโดยงดเว้นและละเว้น มีดังนี้ การกระทำโดยงด เว้นเป็นการไม่กระทำการที่ผู้กระทำมีหน้าที่กระทำเพื่อป้องกันผลหรือเป็นหน้าที่โดยเฉพาะเจาะจง แต่ การละเว้น เป็นการไม่กระทำหน้าที่ทั่วไป การกระทำโดยงดเว้นเป็นการกระทำอย่างหนึ่งในทางอาญา ในส่วนขององค์ประกอบภายนอกเป็นหลักในการพิจารณาความผิดเช่นเดียวกับการกระทำจึงไม่มีฐาน ความผิดในการงดเว้นโดยเฉพาะ แต่การกระทำโดยละเว้นโดยหลักแล้วไม่ถือเป็นการกระทำในทาง อาญา ดังนั้นหากรัฐต้องการให้การกระทำโดยละเว้นเป็นความผิดจะต้องมีกฎหมายกำหนดไว้เป็น ความผิดโดยเฉพาะ 2) องค์ประกอบภายนอก องค์ประกอบภายนอกของความผิดอาญาแต่ละฐานความผิด สามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วน 1) ผู้กระทำความผิด 2) การกระทำที่เป็นความผิด 3) กรรมของการกระทำ ในความผิดทุกฐาน ความผิดต้องมีผู้กระทำและการกระทำที่เป็นความผิด แต่ความผิดบางฐานอาจไม่มีกรรมของการ กระทำ ๑) ผู้กระทำความผิด แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ ๑.1) ผู้กระทำความผิดเอง แบ่งออกเป็น (1) ผู้กระทำความผิดโดยตรง เช่น พยาบาล จำหน่ายยาเสพติด (2) ผู้ใช้สัตว์เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิด เช่น พยาบาลแดงสั่งการให้สุนัขที่ แดงฝึกมาไปกัดดำเพื่อนบ้านติดกัน (3) ผู้ใช้บุคคลซึ่งไม่มีการกระทำเป็นเครื่องมือในการกระทำ ความผิด เช่น แดงสะกดจิตขาวให้ไปจ่ายยาพิษให้กับดำโดยขาวไม่รู้สำนึกในการเคลื่อนไหวของตนเอง หรือแดงจับมือของขาวขณะขาวเผลอไปตีหัวดำ เป็นต้น ๑.2) ผู้กระทำความผิดโดยอ้อม คือ การหลอกหรือใช้บุคคลซึ่งมีการกระทำให้กระทำ ความผิดโดยผู้ถูกหลอกหรือถูกใช้ไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด ๑.3) ผู้ร่วมกระทำความผิด คือ กรณีมีผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ได้แก่ ตัวการตามมาตรา 83 ผู้ใช้ตามมาตรา 84 มาตรา 85 ผู้สนับสนุนตามมาตรา 86 เช่น การใช้ผู้ ที่ไม่ต้องรับผิดในการกระทำโดยเจตนาเพราะมีกฎหมายยกเว้นความผิดให้กระทำความผิด หลอกให้ ผู้อื่นกระทำความผิดโดยประมาทโดยผู้กระทำนั้นมีเจตนากระทำความผิดต่อผู้เสียหาย การใช้ให้ผู้ขาด คุณสมบัติที่จะเป็นผู้กระทำความผิดกระทำการซึ่งผู้กระทำเป็นผู้มีคุณสมบัติในการกระทำความผิดนั้น การบังคับผู้อื่นให้กระทำความผิดต่อผู้เสียหาย การบังคับหรือหลอกให้ผู้เสียหายกระทำต่อตนเอง การกระทำที่เป็นความผิด ตามปกติแล้วจะถือเป็นการกระทำที่เป็นความผิดได้ต้องประกอบด้วย 4 ขั้นตอนด้วยกัน คือ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3