หนังสือ คำอธิบายกฎหมาย สำหรับพยาบาล

20 หนังสือกฎหมายสำหรับพยาบาล ขั้นตอนที่ 1 คิดที่จะกระทำ ขั้นตอนที่ 2 ตกลงใจว่าจะกระทำ ขั้นตอนที่ 3 ตระเตรียมเพื่อกระทำ ขั้นตอนที่ 4 ลงมือกระทำ คิดที่จะกระทำหรือตกลงใจว่าจะกระทำยังไม่เรียกว่า “กระทำ” ยังไม่เป็นความผิดอาญา การ ตระเตรียมเพื่อกระทำก็ไม่ถือว่าเป็นการกระทำเช่นกัน ที่ไม่ถือว่าเป็นการกระทำอันเป็นความผิดอาญา นั้น ก็เพราะในขั้นตระเตรียมนั้นทราบจุดประสงค์ของผู้กระทำได้ยากว่าต้องการกระทำความผิดอาญา ประการใด และในขั้นตระเตรียมนี้ผู้ตระเตรียมยังมีโอกาสกลับใจไม่ลงมือกระทำความผิดเสียก็ได้ กฎหมายจะไม่ลงโทษบุคคลที่ตระเตรียมเพื่อกระทำความผิด แต่ไม่ใช่ว่าจะลงโทษบุคคลที่ตระเตรียม ไม่ได้ในทุกกรณี ถ้าหากการตระเตรียมนั้นเป็นความผิดตามบทมาตราที่บัญญัติไว้โดยเ ฉพาะ ก็ต้อง เป็นไปตามนั้น เช่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 107 ถึงมาตรา 110 มาตรา 114 มาตรา 128 มาตรา 219 กรรมของการกระทำ ซึ่งก็เป็นไปตามฐานความผิดนั้น ๆ เช่น ในความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกายกรรมของการ กระทำคือผู้อื่น (ผู้ถูกกระทำ) ซึ่งต้องมีสภาพความเป็นมนุษย์ในความผิดฐานทำแท้งคือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใน ครรภ์มารดา ในความผิดฐานลักทรัพย์วัตถุแห่งการกระทำคือทรัพย์ของผู้อื่น เป็นต้น 3) องค์ประกอบภายใน (Mental element) องค์ประกอบภายใน แบ่งออกเป็น 1) เจตนาธรรมดา 2) เจตนาพิเศษหรือชักจูง 3) ประมาท และ 4) ไม่เจตนา เจตนาธรรมดา คือ การกระทำโดยรู้ สำนึกในการที่ กระทำและรู้ ข้อเท็จจริ งอันเป็น องค์ประกอบของความผิด แบ่งเป็น 1) ประสงค์ต่อ 2) เล็งเห็นผล และ 3) พลาดหรือเจตนาโอน เจตนาประสงค์ต่อผล คือ เจตนาที่ผู้กระทำ “เจตนาโดยตรง” ในการกระทำของตน เจตนาเล็งเห็นผล คือ เจตนาที่ผู้กระทำ “เจตนาโดยอ้อม” ในการกระทำของตน พลาดหรือเจตนาโอน คือ เจตนาที่ผู้กระทำเจตนากระทำต่อบุคคลอื่นแต่ผลของการกระทำ เกิดแก่อีกบุคคลหนึ่ง เจตนาพิเศษหรือชักจูง คือ เจตนาที่ผู้กระทำได้กระทำลงด้วยเจตนาธรรมดาแล้ว ยังมีมูลเหตุ ชักจูงใจที่เรียกว่า “เจตนาพิเศษ” เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดด้วย ประมาท คือ กระทำโดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัย และพฤติการณ์ และผู้กระทำอาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3