หนังสือ คำอธิบายกฎหมาย สำหรับพยาบาล

หนังสือกฎหมายสำหรับพยาบาล 23 แก่ความตาย จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ให้จำคุกจำเลย 4 ปี คำให้การชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 3 ปี ของกลางริบ (ฎีกาที่ 1414/2516)” ศาลได้นำทฤษฎีเงื่อนไขมาปรับใช้ในคดี กล่าวคือ ศาลพิจารณาว่าความตายของนาง ประเทียบ ใจแจ้ง เป็นผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลย ถ้าหากจำเลยไม่ได้กระทำการดังกล่าว เช่นนั้น ความตายซึ่งเป็นผลที่เป็นความผิดก็จะไม่เกิดขึ้นด้วย ในวิชาชีพพยาบาลนั้น เมื่อต้องพิจารณา ว่าพยาบาลกระทำการโดยประมาทหรือไม่ ย่อมต้องนำทฤษฎีเงื่อนไขมาปรับใช้เช่นกัน โดยการ พิจารณาเบื้องต้นจากความรู้ที่เคยศึกษาเล่าเรียนมา หากไม่เคยเล่าเรียนมาย่อมเข้าลักษณะเป็นผล โดยตรงจากการกระทำของพยาบาลอันเป็นการกระทำโดยประมาท หากได้เคยศึกษาเล่าเรียนมาแล่ว ชั้นต่อไปที่ต้องพิจารณาคือพยาบาลได้ดำเนินการตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ หากได้ดำเนินการ ถูกต้องครอบถ้วนแล้ว ย่อมต้องถือว่าผลที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เป็นผลโดยตรงจากการกระทำของพยาบาล และย่อมต้องถือว่าพยาบาลได้ใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นอย่างเพียงพอแล้ว ย่อมไปเป็นประมาท (2) แพทย์สั่งฉีด KCL ในน้ำเกลือ แต่พยาบาลฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ต้องพิจารณาก่อนว่า พยาบาลกระทำการโดยประมาทหรือไม่ โดยการนำทฤษฎีเงื่อนไขมา ปรับใช้ เบื้องต้นต้องพิจารณาเกี่ยวกับการกระทำของพยาบาลว่ามีความระมัดระวังหรือไม่ เมื่อ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า แพทย์สั่งฉีด KCL ในน้ำเกลือ แต่พยาบาลฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรง พฤติการณ์ ดังกล่าวย่อมแสดงว่าพยาบาลขาดการตรวจสอบคำสั่งการรักษาก่อนฉีดให้ดี ก่อนการฉีด KCL นั้น พยาบาลอาจใช้ความระมัดระวังในการตรวจสอบวิธีการฉีดได้ แต่ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังเพียงพอตาม วิสัยและพฤติการณ์ จึงเป็นการกระทำโดยประมาท เมื่อการกระทำโดยประมาทนั้นทำให้ผู้ป่วย เสียชีวิตอันเป็นผลโดยตรงจากความประมาทจึงเป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่น ถึงแก่ความตาย กรณีศึกษาที่ 2 ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส (๑) พยาบาลป้อนนมเด็กอายุ 3 เดือน แต่ไม่ระมัดระวังถือขวดนมให้ดีจนเด็กสำลักและตก จากมือ เด็กหมดสติ หัวใจหยุดเต้น เลือดคั่งในสมอง หลังผ่าตัดกลายเป็นคนพิการทางสมอง จากกรณีดังกล่าว ต้องพิจารณาก่อนว่าพยาบาลกระทำการโดยประมาทหรือไม่ โดยการนำ ทฤษฎีเงื่อนไขมาปรับใช้ในการพิจารณาเบื้องต้นต้องพิจารณาเกี่ยวกับการกระทำของพยาบาลว่ามี ความระมัดระวังหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า พยาบาลป้อนนมเด็กโดยไม่ระมัดระวังถือขวดนมให้ ดีจนเด็กสำลักและตกจากมือ ส่งผลให้เด็กหมดสติ หัวใจหยุดเต้น เลือดคั่งในสมอง ภายหลังผ่าตัด กลายเป็นคนพิการทางสมอง พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงว่าพยาบาลอาจใช้ความระมัดระวังในขณะ ทำการป้อนนมได้ แต่ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังอย่างเพียงพอตามวิสัยและพฤติการณ์ จึงเป็นการกระทำ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3