หนังสือ คำอธิบายกฎหมาย สำหรับพยาบาล

38 หนังสือกฎหมายสำหรับพยาบาล จากแนวคิดและหลักกฎหมายดังกล่าว จึงสรุปได้ว่ากฎหมายไทยถือเอาความยินยอมในทาง อาญามาเป็นหลักทั่วไปและเป็นเหตุยกเว้นความรับผิด เมื่อผู้ป่วยให้ความยินยอมตามกฎหมายแล้ว การกระทำทางการพยาบาลจะเป็นความผิดได้ก็แต่โดยความยินยอมให้กระทำการดังกล่าวขัดต่อความ สงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เช่น การรับจ้างฉีดยาให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายตายจากไป การรับจ้างเป็นเมียน้อย ร่วมขายไตเพื่อเอาเงินไปรักษาแม่ ร่วมรับจ้างอุ้มบุญ เป็นต้น ซึ่งการกระทำ ดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักศาสนาจึงถือเป็นการกระทำที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประช าชน ด้วย นอกจากหลักความยินยอมที่ทำให้การกระทำทางการพยาบาลไม่เป็นความผิดแล้ว ยังมี แนวคิดเกี่ยวกับการประกอบวิชาชีพตามกฎหมายด้วย แต่การกระทำใดที่จะเป็นการประกอบวิชาชีพ ตามกฎหมายนั้น ต้องมีลักษณะสำคัญที่มีองค์ประกอบ 3 ประการ คือ ก. ผู้กระทำเป็นผู้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต ข. การกระทำอยู่ในขอบข่ายของการประกอบวิชาชีพนั้น ๆ ค. ผู้ป่วยยินยอมโดยสมบูรณ์ หมายความว่า ผู้ป่วยเต็มใจยอมรับการกระทำนั้นโดยบริสุทธิ์ ดังนั้น หากผู้ป่วยไม่ยอมให้พยาบาลฉีดยาหรือยอมให้ฉีดยาโดยไม่สมบูรณ์ไม่รู้สภาพของการ กระทำ การกระทำของพยาบาลย่อมไม่เป็นการประกอบวิชาชีพตามกฎหมายและการกระทำดังกล่าว ย่อมเป็นความผิด แต่พยาบาลจะต้องรับโทษหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าการกระทำนั้นครบองค์ประกอบ โครงสร้างความผิดอาญาหรือไม่ ซึ่งองค์ประกอบที่ถือว่าเข้าลักษณะการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญา และต้องรับโทษ มีส่วนสำคัญ 3 ส่วน คือ (1) การกระทำครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมาย (2) การกระทำนั้นเป็นความผิด (3) ความชั่ว คือ เจตนาหรือจงใจทำ องค์ประกอบทั้งสามประการต้องครบถ้วน ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่งการกระทำนั้นไม่เป็น ความผิดอาญา ดังนั้นการกระทำของพยาบาลที่ผู้เขียนอธิบายว่าเป็นการประกอบวิชาชีพตามกฎหมาย ย่อมทำให้ไม่ครบองค์ประกอบในส่วนที่สองในโครงสร้างความผิดอาญา คือการกระทำนั้นเป็นความผิด จึงไม่เข้าข่ายความผิดอาญา 2.3) ความรับผิดทางอาญาที่เกิดจากทอดทิ้งเด็ก ผู้ป่วย หรือคนชรา “มาตรา ๓๐๖ ผู้ใดทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใด เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่น บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3