วารสาร วิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

(ข) รัฐที่ใช้ค�ำว่า “รัฐสุลต่าน” (Sultannate) ประกอบชื่อ ไม่ใช่ค�ำว่า “ราชอาณาจักร” (Kingdom) หรือ “รัฐ” (State) นั้นเป็นการบอก ให้ทราบถึงผู้ปกครองของรัฐเป็นสุลต่าน (ค) ญี่ปุ่นกับมาเลย์เซียไม่ใช้ค�ำว่า “ราชอาณาจักร” (Kingdom) หรือค�ำใด ๆ เลยประกอบชื่อประเทศใด ๆ ทั้งสิ้น หลักทั่วไปเกี่ยวกับการใช้พระราชอ�ำนาจในการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ เมื่อพิจารณาศึกษาถึง “การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ” ของประเทศไทยได้มีนักวิชาการ เช่น ศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า ค�ำว่า “ประชาธิปไตย” (Democracy) ของไทยในปัจจุบันกลับมีความหมายไปอีกอย่างหนึ่งไม่ได้ ตรงกับความเข้าใจ “ประชาธิปไตย” ของ ปรีดี พนมยงค์ ในขณะนั้น เพราะ ค�ำอธิบาย “ราชาธิปไตย” (Monarchy) อ�ำนาจจ�ำกัด อ�ำนาจของพระมหากษัตริย์ หมายความว่า ถ้าไม่มีการจ�ำกัดอ�ำนาจพระมหากษัตริย์ไว้ในรัฐธรรมนูญแล้ว พระมหากษัตริย์ก็จะมีอ�ำนาจทุกประการ ถ้ามีการจ�ำกัดอ�ำนาจของพระมหากษัตริย์ ไว้ในรัฐธรรมนูญ พระองค์ก็มีอ�ำนาจนั้น ถ้าไม่จ�ำกัดไว้ที่เหลือ คือ มีอ�ำนาจ 9 เมื่อพิจารณาศึกษาถึง “ประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” มีอยู่ 3 กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1 มีประเทศอังกฤษเป็นแม่แบบของประชาธิปไตยที่มี พระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งจะมีหลักตั้งแต่ประเทศเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ว่า พระมหากษัตริย์หรือพระราชินีนาถ จะไม่ทรงมีพระราชด�ำริทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น แต่จะทรงท�ำตามค�ำแนะน�ำของนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี ที่จะ รับผิดชอบต่อสภาสามัญซึ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎร และสภาก็รับผิดต่อประชาชน ดังนั้น จึงถือว่า “พระมหากษัตริย์ไม่ทรงกระท�ำผิด” (The King can do no wrong) ที่ไม่ทรงท�ำผิด เพราะพระองค์ทรงท�ำตามค�ำแนะน�ำของนายกรัฐมนตรี 9 วรเจตน์ ภาคีรัตน์ “การปฏิวัติสยาม 2475 (ชั่วคราว) ? พระราชอ�ำนาจของพระมหากษัตริย์และอ�ำนาจ ตุลาการหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง” วารสารฟ้าเดียวกัน ปีที่ 8 ฉบับที่ 2 ตุลาคม - ธันวาคม 2553 หน้า 70 วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 7 ฉบับที่ 9 กรกฎาคม 2561 - มิถุนายน 2562 75