วารสาร วิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ

กรณีที่ 1 ทรงยับยั้ง ร่าง พระราชบัญญัติเมื่อ วันที่ 8 สิงหาคม 2477 รัฐบาล ได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติอากรมรดก และ การรับมรดก สภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบ จึงน�ำขึ้น ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อ ทรงลงพระปรมาภิไธย แต่ ได้พระราชทาน ร่างพระราชบัญญัตินั้น คืนมาให้ สภาฯ พิจารณาใหม่ โดย ทรงจะให้เพิ่ม บทบัญญัติ ยกเว้น การเก็บอากรมรดก จากทรัพย์สิน พระมหากษัตริย์ ให้ชัดแจ้งว่า ไม่ต้องเก็บ อากรมรดก มีพระราชประสงค์ จะให้ เติมข้อความ ต่อไปนี้คือ “พระราชทรัพย์สินใด ๆ ที่เป็น พระราชมรดก ไปยังผู้อื่น นอกจาก ผู้สืบราชสมบัติ ต้องเก็บ อากรมรดก นอกจากนั้น เป็นพระราชทรัพย์ ฝ่ายพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องเสีย อากรมรดก” คณะรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตามร่าง พ.ร.บ.นี้ ทรัพย์สิน ส่วนพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องเสีย อากรมรดกอยู่แล้ว ที่ประชุมสภา ได้พิจารณา และลงมติ ด้วยคะแนนลับ ยืนยัน ตามร่างเดิม ด้วยคะแนนเสียง 132 ต่อ 89 นายกรัฐมนตรี จึงได้ทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อทรง ลงพระปรมาภิไธย อีกครั้งหนึ่ง ในการนี้ ได้ให้ ม.จ.วรรณไวทยากร วรวรรณ กราบบังคมทูล ถวาย รายงานด้วยว่า ตามร่างพระราชบัญญัตินั้น ตรงกับ พระราชประสงค์แล้ว คือ จะไม่เรียกเก็บ อากร จากทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และรัฐบาลจะร่างกฎหมาย ยกเว้นอากรดังกล่าว ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในที่สุด ได้ทรงยอม ลงพระปรมาภิไธย กรณีที่ 2 ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธยเมื่อ วันที่ 20 สิงหาคม 2477 รัฐบาล เสนอร่าง พ.ร.บ.ต่อ สภาฯ ซึ่ง มีหลักการอย่างเดียวกัน รวม 3 ฉบับ คือ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขกฎหมายลักษณะอาญา, ร่างพระราชบัญญัติแก้ไข กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมาย อาญาทหาร ส�ำหรับเนื้อหา ในการแก้ไข คือ เมื่อมีการตัดสินประหารชีวิต ให้ใช้วิธีการประหาร ด้วยการยิงแทนการตัดหัวซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้แถลง เหตุผลว่า การประหารชีวิตโดยวิธีตัดศีรษะนั้นเป็นที่น่าสยดสยอง อย่างยิ่ง บางครั้ง เป็นการทรมานอย่างน่าเวทนา เพชฌฆาตบางคนไม่มีความช�ำนาญ พอมีการพลาดบ่อย ๆ บางครั้ง มีเสียงโอดครวญน่าสงสาร เพราะแทนที่จะ ฟันคอ ไปฟันถูกศรีษะบ้างหลังบ้าง การตระเตรียมประหาร ก็เป็นเรื่องใหญ่โต ซึ่งเป็นการทรมานมากขึ้น จนนักโทษบางคนบ้าไป หรือเกือบบ้าไปขณะที่ วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 7 ฉบับที่ 9 กรกฎาคม 2561 - มิถุนายน 2562 85

RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3