วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
ในการพิพากษาคดี เมื่อมีคำ�สั่งให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพ ถ้าศาลเห็นสมควรจะสั่งให้ลูกหนี้ตามคำ�พิพากษานำ�เงินมาวางศาลตามเงื่อนไข หรือระยะเวลาที่ศาลกำ�หนด ในกรณีลูกหนี้ตามคำ�พิพากษามีรายได้ประจำ� ศาลอาจสั่ง ให้อายัดเงินเท่าจำ�นวนที่จะชำ�ระเป็นค่าอุปกรณ์เลี้ยงดูหรือค่าเลี้ยงชีพเป็นรายเดือน แล้วให้ผู้มีหน้าที่จ่ายเงินดังกล่าวนำ�เงินมาวางศาลแทนลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาก็ได้ ถ้าลูกหนี้ไม่ทำ�ตามอาจเรียกมาตักเตือน ถ้าไม่ฟังคำ�ตักเตือนจะสั่งขังก็ได้ แต่ละครั้ง ไม่เกิน 15 วัน ในการดำ�เนินคดีครอบครัวที่ผู้เยาว์มีผลประโยชน์หรือส่วนได้ส่วนเสีย ผู้อำ�นวยการสถานพินิจ ยังมีอำ�นาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานอัยการ ทั้งกฎหมาย ยังกำ�หนดให้เป็นหน้าที่ที่ศาลต้องแจ้งผู้อำ�นวยการสถานพินิจทราบถ้ามีคดีครอบครัว ที่ผู้เยาว์มีผลประโยชน์หรือส่วนได้เสีย ทั้งก่อนพิพากษาศาลต้องฟังความเห็นของ ผู้อำ�นวยการสถานพินิจด้วย ศาลยังมีอำ�นาจตั้งผู้อำ�นวยการสถานพินิจเป็นผู้กำ�กับ การปกครอง มีอำ�นาจสอดส่องบิดามารดาหรือผู้ปกครองของผู้เยาว์ให้ได้ใช้อำ�นาจ ปกครองเพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของผู้เยาว์ด้วย เห็นได้ว่ากฎหมายคำ�นึงถึงสถานภาพของการสมรสและบุตรผู้เยาว์ และมุ่งต่อ การปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสและบุตร ทั้งกฎหมายยังกำ�หนดเรื่อง องค์คณะไว้ในมาตรา 14 ว่า ถ้าคดีที่ผู้เยาว์ไม่มีผลประโยชน์หรือส่วนได้เสีย ก่อนเริ่มพิจารณาคดีให้ศาลสอบถามคู่ความว่าประสงค์จะให้มีผู้พิพากษาสมทบ เป็นองค์คณะด้วยหรือไม่ ถ้าคู่ความทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะให้ ผู้พิพากษาสมทบเป็นองค์คณะ ให้ผู้พิพากษา ไม่น้อยกว่า 2 คน เป็นองค์คณะได้ ในพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและ ครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 23 บัญญัติว่าต้องมีผู้พิพากษาไม่น้อยกว่า 2 คน และ มีผู้พิพากษาสมทบอีก 2 คน ซึ่งองค์คณะอย่างน้อยคนหนึ่งต้องเป็นสตรี เหตุที่ กฎหมายได้วางหลักให้ผู้พิพากษาสมทบซึ่งกำ�หนดว่าต้องเป็นสตรีอย่างน้อย 1 คนนั้น เพราะตามเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้นเห็นว่าท่านผู้พิพากษาสมทบซึ่งเป็นบุคคล ที่มีภูมิลำ�เนาอยู่ในจังหวัดนั้น ๆ ย่อมเข้าใจสถานภาพของสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ในจังหวัดนั้น ๆ ได้ดี ทั้งคุณสมบัติของผู้พิพากษาสมทบตาม พระราชบัญญัติฉบับนี้ใน มาตรา 25(2) ต้องมีหรือเคยมีบุตรหรือเคยอบรมเลี้ยงดูเด็ก วารสารวิชาการนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ ปีที่ 4 ฉบับที่ 6 มกราคม - ธันวาคม 2556
Made with FlippingBook
RkJQdWJsaXNoZXIy Mzk3MzI3